สธ. 8 ก.ค.-กรมควบคุมโรค ปัดปมนักวิทย์ 32 คนท้วงการติดเชื้อโควิด-19 น่าจะเป็นแอร์บอร์น ย้ำยังเป็นการติดเชื้อผ่านละอองฝอยของสารคัดหลั่ง ที่เกิดจากการไอจาม
นพ.อนุพงศ์ สุจริยากุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ไทยไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นเวลา 44วัน ทำให้สิ้นสุดการระบาดในคลื่นลูกที่1แล้ว แต่ไทยยังต้องเตรียมการเพื่อรองรับการระบาดรอบ 2 เนื่องจากทั่วโลกการระบาดยังเพิ่มขึ้นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามไทยก็ยังต้องพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขก็เห็นด้วยกับมาตรการเปิดประเทศเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้หลักการเปิดอย่างมีสติ สิ่งสำคัญที่จะเน้นย้ำ คือ ยังต้องสวมหน้ากาก ล้างมือ และเว้นระยะห่าง
ส่วนกรณีนักวิทยาศาสตร์จาก 32 ประเทศได้ส่งหนังสือถึงองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่าการระบาดของโควิด-19 ที่เคยระบุว่าเป็นดรอปเล็ตแต่น่าจะเป็นจากแอร์บอร์นนั้น นพ.อนุพงศ์ กล่าวว่าจากความรู้ที่ไทยมีขณะนี้โรคโควิด-19 ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ เชื้อชอบทำลายเซลล์เยื่อหุ้มของเนื้อปอด การติดต่อยังเป็นการสัมผัสจากสารคัดหลั่ง จากการไอจามฝอยละอองน้ำลายในระยะ1-2เมตร ส่วนสิ่งที่เป็นแอร์บอร์น หรือติดเชื้อทางอากาศนั้น เป็นการติดเชื้อในอากาศจากห้องระบบปิดที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ห้องไอซียู หรือห้องที่ใช้หัตถการใช้เครื่องมือเป็นห้องแอร์ มีการปิดห้องจึงมีโอกาสที่ฝอยละอองจะอยู่ในห้องเหล่านี้ได้นาน แต่ในสถานที่โล่งแจ้งไม่ใช่อย่างแน่นอน เพราะมีเรื่องกระแสลม อากาศสามารถถ่ายเทและมีแสงแดด ดังนั้นข้อมูลนี้เป็นข้อค้นพบใหม่ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลทางวิชาการ แต่หากโควิด-19 ติดง่ายทางอากาศเหมือนโรควัณโรค ตัวเลขของผู้ป่วยทั่วโลกคงไม่ใช่ 11-12ล้านคน น่าจะมีจำนวนมากกว่านี้แน่นนอน และองค์การอนามัยโลกก็ยังคงต้องตรวจสอบต่อไป แต่ขณะนี้ข้อมูลยังยืนยันว่าติดทางฝอยละอองจึงขอให้ประชาชนอย่ากังวล.-สำนักข่าวไทย