นราธิวาส 15 มิ.ย. – สำนักข่าวไทยยังคงเกาะติดกรณีมีชายลึกลับอ้างตัวเป็นทหารส่งข้อความหาหญิงสาวในสถานที่กักกันเชิงชู้สาว ตำรวจอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนว่าผู้ก่อเหตุเป็นใคร แต่พบว่ามีการลบแอปฯ ออกไปจากโทรศัพท์แล้ว
ความคืบหน้ากรณีชายลึกลับส่งข้อความเข้าไปหาหญิงสาวที่เดินทางกลับจากมาเลเซีย และกักตัวอยู่ในสถานที่กักกันของอำเภอรือเสาะ จ.นราธิวาส โดยใช้โปรไฟล์ว่า “staf” มีการสนทนาด้วยข้อความไม่เหมาะสมผ่านแอปพลิเคชันหนึ่ง (Badoo) และจากการตรวจสอบมีการนำรูปอาสาสมัครทหารพรานนายหนึ่งไปแอบอ้าง
ล่าสุด พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงศ์ โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบของตำรวจ สภ.เจาะไอร้อง หลังอาสาสมัครทหารพรานที่ถูกแอบอ้างไปแจ้งความไว้ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบว่าทหารที่ถูกแอบอ้างมีพฤติกรรมตามที่เป็นข่าว และไม่เคยใช้แอปพลิเคชันนี้แชทไปหาหญิงสาว ขณะนี้ทราบว่าผู้ที่ก่อเหตุได้ลบแอปฯ ออกจากโทรศัพท์ไปแล้ว ทำให้การตรวจสอบและติดตามตัวทำได้ยากมากขึ้น
ด้านนายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ ในฐานะผู้ดูแลศูนย์กักกันอำเภอรือเสาะ สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเช่นเดียวกัน แต่ไม่พบว่ามีบุคลากรหรือเจ้าหน้าที่ของอำเภอ ทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ อส. (อาสารักษาดินแดน) หรือปลัดอำเภอ เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องตามกระแสข่าว แต่หากตรวจสอบพบว่ามีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องจะดำเนินการลงโทษ โดยไม่มีการละเว้น
ก่อนหน้านี้คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยมีอาสาสมัครปฐมพงศ์ (สงวนนามสกุล) ผู้ที่ถูกแอบอ้างเข้าร่วมพูดคุย ประเด็นสำคัญของการพูดคุยครั้งนั้นพบว่า ฝ่ายทหารย้ำชัดว่าไม่ได้มีบุคลากรก่อเหตุ ขณะที่คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้กำลังตรวจสอบข้อมูลของหญิงสาวว่าได้ออกจากค่ายหรือไม่ รวมถึงกำลังหาข้อมูลคู่ขนานเพิ่มเติม. – สำนักข่าวไทย