เวลลิงตัน 9 มิ.ย.- ตำรวจนิวซีแลนด์ยกเลิกการลาดตระเวนพร้อมอาวุธแล้ว จากเดิมที่ทดลองทำเพราะเหตุกราดยิงมัสยิดเมื่อปีก่อน หลังจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจนำไปสู่การทำให้เจ้าหน้าที่ใช้กำลังแบบเดียวกับที่เกิดขึ้นในสหรัฐ
ผู้บัญชาการตำรวจนิวซีแลนด์แถลงวันนี้ว่า ได้ยุติการให้ตำรวจลาดตระเวนพร้อมอาวุธแล้ว ตามเสียงสะท้อนจากประชาชน เพราะเห็นได้ชัดว่าตำรวจในโครงการทดลองลาดตระเวนพร้อมอาวุธไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามความคาดหวังของประชาชน ดังนั้นตำรวจจะลาดตระเวนโดยปราศจากอาวุธต่อไป และจะปฏิบัติหน้าที่ตามการสนับสนุนของประชาชน
ตำรวจนิวซีแลนด์ทดลองพกอาวุธหลังเกิดเหตุคนร้ายบุกเดี่ยวกราดยิงมัสยิดสองแห่งในเมืองไครสต์เชิร์ชเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อนที่มีผู้เสียชีวิตมากถึง 51 คน ตำรวจให้เหตุผลในเวลานั้นว่า เหตุสังหารหมู่ครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ยุคใหม่ของประเทศสะท้อนว่าสภาพการปฏิบัติหน้าที่ได้เปลี่ยนไปแล้ว ตำรวจจึงต้องปรับเปลี่ยนให้สามารถส่งเจ้าหน้าที่พร้อมอาวุธไปยังพื้นที่เสี่ยงสูงได้อย่างรวดเร็ว ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสร้างความไม่สบายใจให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะชนพื้นเมือง แกนนำพรรคกรีนส่งจดหมายเปิดผนึกถึงผู้บัญชาการตำรวจว่า ต้องดูสหรัฐเป็นตัวอย่างว่าความรุนแรงสามารถเกิดขึ้นได้หากตำรวจกลายเป็นเจ้าหน้าที่ติดอาวุธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับชนกลุ่มน้อยและชุมชนคนผิวสี ขณะที่นายกรัฐมนตรีจาซินดา อาร์เดิร์นเผยว่า คัดค้านอย่างเต็มที่หากตำรวจจะพกอาวุธในการลาดตระเวนตามปกติ.- สำนักข่าวไทย