กรุงเทพฯ 12 พ.ค.-“เชาว์” จี้ นายกฯ สอบหน้ากากผ้า ก.อุตฯ ด้อยคุณภาพ ซักครั้งเดียวย้วย ทั้งที่ “สุริยะ” คุยได้มาตรฐาน สงสัยมีใครได้ประโยชน์ จากงบ 65 ล้าน บนความทุกข์ของประชาชนหรือไม่
นายเชาว์ มีขวด อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ก เรื่อง “ชาวบ้านร้อง หน้ากากอนามัยกระทรวงอุตฯ สุดห่วย ซักหนเดียวย้วย คือความเฮงซวยจากการใช้งบโควิด-19 อีกแล้ว” มีเนื้อหาระบุว่า ตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในกรุงเทพฯ จำนวนหนึ่ง ด้วยปัญหาที่เหมือนกัน คือ ได้รับหน้ากากอนามัยผ้าตามโครงการที่กระทรวงอุตสาหกรรมส่งให้ทางไปรษณีย์ ซึ่งโครงการดังกล่าวมีการแจกจ่ายรวม 10 ล้านชิ้น ใช้งบประมาณทั้งสิ้น 65 ล้านบาท เท่ากับราคา 6.5 บาทต่อชิ้น แต่วัสดุที่นำมาผลิตกลับด้อยคุณภาพ เนื้อผ้าบางจนไม่สามารถป้องกันอะไรได้ เพราะใช้ผ้าเกรดต่ำ เมื่อนำไปซักเพียงแค่ครั้งเดียวเนื้อผ้าจะหลุดหด ย้วย พอง นำไปใช้ซ้ำไม่ได้ เนื่องจากมีใยผ้าขนผ้าหลุดยุ่ยออกมาเข้าจมูกรำคาญต่อระบบหายใจ
อดีตรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุอีกว่า โครงการนี้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 เห็นชอบจัดสรรงบประมาณรายจ่ายจากงบกลาง จำนวน 65 ล้านบาท เพื่อผลิตหน้ากากผ้าแจกจ่ายให้ประชาชนในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงพื้นที่เสี่ยงอื่น จำนวน 10 ล้านชิ้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม คุยไว้ว่าร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยและภาคเอกชน คัดเลือกโรงงานที่มีความพร้อมและมีศักยภาพสามารถจัดหาวัตถุดิบในการผลิตที่มีคุณภาพ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมกำหนดในเรื่องข้อแนะนำคุณลักษณะผ้าที่ใช้ในการผลิตหน้ากากอนามัยสำหรับประชาชน เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) โดยผ่านการรับรองมาตรฐานจากสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ มีกระบวนการตรวจสอบคุณลักษณะและคุณภาพทั้งก่อนและหลังการผลิต เพื่อให้สามารถผลิตหน้ากากผ้าที่ได้มาตรฐาน มีคุณภาพและปลอดภัยจากสารเคมี ซักแล้วใช้ซ้ำได้ แต่ทำไมเมื่อมีการนำไปแจกจ่ายให้ประชาชนกลับกลายเป็นของด้อยคุณภาพ ไม่เป็นไปตามคำโฆษณา ถือเป็นการตบตาประชาชน กระทรวงอุตสาหกรรมต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงเรื่องนี้โดยด่วน
“ผมขอเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีให้ตั้งคณะกรรมการจากคนกลางตรวจสอบเรื่องนี้ทันที มีกรอบเวลาที่ชัดเจนเพื่อสรุปผลสอบ อย่าปล่อยให้มีการนำความทุกข์ของประชาชนไปเป็นข้ออ้างแสวงหาประโยชน์ งบประมาณ 65 ล้านบาท ไม่ใช่เงินจำนวนน้อย ต้องทำให้เกิดความกระจ่างว่าถูกใช้ไปอย่างคุ้มค่า เพราะนอกจากปัญหาวัสดุด้อยคุณภาพ อาจเป็นอันตรายต่อการใช้งานแล้ว ยังมีคน กทม.จำนวนมากที่ร้องเรียนว่าไม่ได้รับหน้ากากผ้าแต่อย่างใด ทั้ง ๆ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมแถลงไว้ว่าจะแจกใน กทม.จำนวน 10 ล้านชิ้น ได้รับทุกบ้านภายในเดือนเมษายน แต่จนถึงเดือนพฤษภาคมแล้ว คนกรุงเทพฯ จำนวนมากยังไม่ได้รับหน้ากากผ้าดังกล่าว ท่านนายกฯ ต้องไม่ปล่อยให้เรื่องนี้เงียบไปเฉย ๆ แต่ต้องหาคนผิดมาลงโทษให้ได้” นายเชาว์ระบุ.-สำนักข่าวไทย