อุดรธานี 16 เม.ย.- แม่นักศึกษาสาวไม่รู้ลูกไม่จ่ายหนี้ กยศ.จนครูที่ค้ำประกันให้ เดือดร้อนถูกยึดที่ดิน ล่าสุด ครูเผยมีญาตินักศึกษาติดต่อมา จะหากู้เงินมาใช้หนี้แทนภายใน 2-3 วันนี้
กรณีนางธนวรรณ ชุมแวงวาปี อายุ 63 ปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตอุดรธานี ร้องขอความเป็นธรรมจากสื่อมวลชน ว่าเป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. ให้ น.ส.น้ำฝน ลูกศิษย์ แต่เมื่อเรียนจบปริญญาตรี ได้ไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่น แต่กลับไม่ใช้หนี้กองทุน รวมเป็นเงินต้นและดอกเบี้ย 238,583 บาท ทำให้ตัวเองต้องถูกกรมบังคับคดีอายัดที่ดิน 53 ตารางวา ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และประกาศขายทอดตลาด ซึ่งที่ดินแปลงนี้เตรียมจะสร้างบ้านใช้ชีวิตหลังเกษียณราชการ ทำให้เดือดร้อนอย่างหนัก
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านยัง อ.กุดจับ บ้านของนางบุญเพียง อายุ 58 ปี แม่ของ น.ส.น้ำฝน นางบุญเพียง เปิดเผยว่า เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา นางธนวรรณ ที่เป็นครูที่ค้ำประกันเงินกู้ กยศ.ให้ลูกสาวตนมาหาที่บ้าน 2 ครั้ง ก็มาบอกว่าลูกสาวตนไม่ได้จ่ายเงินที่กู้มาเรียนให้ทาง กยศ. จนทำให้ครูถูกยึดที่ดิน ขอให้ตนรับผิดชอบ หาเงินประมาณ 200,000 บาท มาให้ เพื่อจะนำไปจ่ายให้ทาง กยศ. แต่ตนบอกว่าไม่มี ครูก็บอกให้เอาที่ดินที่บ้านไปจำนองนายทุนหาเงินมาจ่าย แต่ตนบอกว่าที่ดินนี้เป็นทรัพย์สินของพ่อแม่ ที่ให้ลูกๆ มาปลูกบ้านอยู่อาศัย และหากจะไปจำนองกู้นายทุนก็ทำไม่ได้
นางบุญเพียง บอกว่า ไม่รู้จริงๆ ว่าลูกสาวไม่ได้จ่ายเงินให้ทาง กยศ. เพราะคิดว่าจ่ายไปหมดแล้ว ก็เลยไมได้คุยกันเรื่องนี้ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้ ตอนนั้นแม่ก็คงบอกให้ลูกสาวเอาไปใช้หนี้ให้หมดแล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปดูบริเวณที่ดินของนางธนธรรณ ชุมแวงวาปี อดีตข้าราชการครูเกษียณ ที่ร้องเรียนผู้สื่อข่าว ขนาด 53 ตารางวา พบว่าตั้งอยู่ในซอยใกล้กับถนนรอบเมือง ตรงข้ามสถานีขนส่งอุดรธานี แห่งที่ 2 ซึ่งที่ดินเป็นป่าต้นกระถินรกทึบ ซึ่งถือว่าเป็นที่ดินที่อยู่ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี และอยู่ในเมือง โดยมีป้ายติดประกาศของกรมบังคับคดีติดไว้ที่เสาแบ่งเขตที่ดิน แต่ประกาศหลุดออกไปแล้ว เหลือเพียงบางส่วนเท่านั้น
ล่าสุด รับทราบจากนางธนวรรณ ว่ามีญาติของ น.ส.น้ำฝน โทรศัพท์ติดต่อมา แจ้งว่าจะหากู้ยืมเงินนำมาจ่ายใช้หนี้ที่ น.ส.น้ำฝน ค้างจ่ายรวมดอกเบี้ย ภายใน 2-3 วันนี้ โดยจะแจ้งผู้สื่อข่าวให้ทราบ เมื่อมีการจะนำเงินมาจ่ายให้หนี้ที่ค้างกับทาง กยศ.ต่อไป.-สำนักข่าวไทย