กรุงเทพฯ 14 เม.ย. – ผลกระทบ COVID-19 ต่อเศรษฐกิจไทยคาด ส่งผลความต้องการใช้ไฟฟ้าปีนี้ลดลงร้อยละ 0.7 ด้าน สนพ.คาดราคาน้ำมันจะอยู่ในเกณฑ์ต่ำต่อเนื่อง แม้โอเปกพลัสจะบรรลุข้อตกลงลดกำลังผลิต
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้ติดตามตัวเลขการใช้ไฟฟ้าของประเทศ หลังเศรษฐกิจไทยได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด -19 โดยสั่งให้ทุกหน่วยงานติดตามสถานการณ์ เพื่อประเมินสถานการณ์ ซึ่ง ล่าสุดพบว่าการใช้ไฟฟ้าเดือน มีนาคม และเมษายน ปรับลดลง เหตุจากการปิดบริการของห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สายการบิน การรณรงค์ให้หยุดอยู่บ้าน โรงงานต่างๆมีการทยอยปิดหรือลดกำลังผลิต อย่างไรก็ตาม จากการประเมินล่าสุดจากที่หลายสำนักคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะหดตัวกว่าร้อยละ 4 – 5 นั้น ทางหน่วยงานด้านไฟฟ้าประเมินว่า การใช้ไฟฟ้าของประเทศไทยจะลดลงร้อยละ 0.7% จากเดิมคาดจะขยายตัวร้อยละ 2 – 3
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงาน รายงานว่าการใช้ไฟฟ้าในระบบของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ในช่วง 2 เดือนแรกของปี คือ เดือน ม.ค. และ ก.พ. 2563 การใช้ไฟฟ้าเติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปี 2562 ที่ร้อยละ 7 และร้อยละ 2.1 แต่เดือน มี.ค. การใช้ไฟฟ้าเริ่มลดลง ร้อยละ0.5 และ ด้วยมาตรการต่างๆที่ภาครัฐประกาศออกมาเป็นระยะๆ ส่งผลให้การใช้ไฟฟ้าในระบบของ กฟผ. ลดลงอย่างชัดเจน ในต้นเดือนเมษายน ซึ่งข้อมูลระหว่างวันที่ 1 – 13 เมษายน การใช้พลังงานไฟฟ้าในระบบของ กฟผ. มีการลดลงอย่างชัดเจน เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมียอดใช้ 7,024 ล้านหน่วย ลดลง 359 ล้านหน่วยหรือ ร้อยละ 4.87
อย่างไรก็ตามหากประเมินว่าสถานการณ์ระบาด Covid-19 คลี่คลายกลับสู่สภาวะปกติในเดือน มิถุนายน 2563 ตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท. )ประเมินไว้ การใช้ไฟฟ้า ปี 2563 จะมีปริมาณที่ 196,514ล้านหน่วย ลดลงจากปี 2562 ที่ 197,873 ล้านหน่วย หรือลดลงร้อยละ0.7% อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ทาง ธปท.ประเมินเศรษฐกิจไทยปีนี้อาจหัวตัวร้อยละ 5.3 ซึ่งหากเป็นจริง การใช้ไฟฟ้าอาจะลดลงมากกว่าที่ประเมิน
สำหรับการคาดการณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด ในระบบของ กฟผ. ปี 2563 ก่อนเกิดสถานการณ์ระบาด Covid-19 ในวงกว้าง เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2563 ที่ 28,636.7 เมกะวัตต์ หากสถานการณ์ระบาดของ Covid-19 ผ่อนคลายในช่วงฤดูร้อนเดือนพฤษภาคม 2563 ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดหรือพีกมีโอกาสเกิดขึ้นที่ 29,957 เมกะวัตต์ แต่ถ้าสถานการณ์ระบาดของ Covid-19 ยังคงมีไปอย่างต่อเนื่อง คาดว่าความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดคงไม่เกิดขึ้น ทำให้ค่าสูงสุดของปี 2563 จะเป็นวันที่ 12 มีนาคม 2563 ที่ 28,636.7 เมกะวัตต์ -สำนักข่าวไทย
นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน เปิดเผยว่า สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ได้ติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลกในช่วง วันที่ 6 – 12 เมษายน 2563 โดยราคาน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จากกลุ่ม OPEC และพันธมิตรบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นการลดกำลังการผลิตไปถึงปี 2565 แต่ตลาดยังคงไม่หลุดพ้นปัญหาอุปทานน้ำมันล้นตลาด ล่าสุดบริษัท Trafigura คาดการณ์ว่าในเดือน เม.ย. 63 นี้ อุปสงค์น้ำมันจะลดลงอยู่ที่ประมาณ 35 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากผลกระทบของไวรัส COVID-19 นอกจากนี้ ผลของราคาน้ำมันที่ตกต่ำอาจจะทำให้อุตสาหกรรมพลังงานในสหรัฐฯ ต้องประสบปัญหาอีกครั้ง
ขณะที่ต้นทุนราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศ (ณ วันที่ 13 เมษายน 2563) พบว่า น้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้น 0.07 บาทลิตร ทำให้ค่าการตลาดของน้ำมันเบนซิน น้ำมันแก๊สโซฮอล์ และน้ำมันดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 2.09 บาทต่อลิตร และค่าการกลั่น เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 0.58 บาทต่อลิตร
โดยฐานะกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 12 เม.ย. 63 มีเงินสุทธิ 36,149 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 41,837 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 5,688 ล้านบาท . – สำนักข่าวไทย