ปลัดคมนาคมสั่งมอนิเตอร์คนเดินทางใน 3 วันข้างหน้า

กรุงเทพฯ 9 เม.ย. –  ปลัดคมนาคมสั่งผู้บริหารทุกระบบขนส่งมอนิเตอร์คนเดินทาง 3 วันข้างหน้า ซึ่งปกติทุกปีคนจะเริ่มทยอยเดินทางกลับเทศกาลสงกรานต์แล้ว ขณะที่ปีนี้ภาครัฐรณรงค์ประชาชนอยู่บ้าน ป้องกัน COVID -19 ระบาด ซึ่ง 3 วันหลังจากนี้จะเป็นตัวชี้วัดการป้องกันการระบาดที่สำคัญ


นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้สั่งการหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดทั้งหมด ให้มอนิเตอร์การเดินทางของประชาชน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (10 เม.ย.) จนถึงวันที่ 12 เมษายน 2563 ซึ่งช่วงเวลาดังกล่าวคาบเกี่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ และปกติทุกปีวันศุกร์สุดท้ายก่อนเข้าเทศกาลสงกรานต์จะมีประชาชนเดินทางจำนวนมาก เพื่อกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวในเทศกาลสงกรานต์ 

อย่างไรก็ตาม ปีนี้ในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 รัฐบาลได้มีการยกเลิกเทศกาลสงกรานต์ไม่เป็นวันหยุด พร้อมกับรณรงค์ให้ประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ดังนั้น จึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นกรมการขนส่งทางบก กรมทางหลวง  กรมทางหลวงชนบท ติดตามสถานการณ์การเดินทางอย่างใกล้ชิด หากพบยังมีการเดินทางผิดปกติ ขอให้รีบรายงานให้กระทรวงคมนาคมทราบทันที 


นอกจากนี้ ในช่วงที่มีการป้องกันการระบาดของ COVID-19 และแต่ละจังหวัดมีการตั้งด่าน เพื่อควบคุมการเดินทางของประชาชน และคนต่างพื้นที่ที่จะเดินทางเข้ามาในจังหวัดของตนเอง ในส่วนนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่ร่วมปฏิบัติงานพร้อมที่จะปรับให้ด่านสกัด COVID มีภารกิจดูแลเป็นด่านความปลอดภัยทางถนนด้วย

“ยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมพร้อมเกาะติดสถานการณ์การเดินทาง และขณะนี้แผนรองรับการเดินทางเทศกาลสงกรานต์ 2563 ยังพร้อมที่จะนำมาใช้ปฏิบัติทันที” นายชัยวัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจัดการด้านการเดินทางและคมนาคม ก่อนหน้านี้ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ประเมินว่า การควบคุมการเดินทางของประชาชนในช่วงเดือนเมษายน 2563 ซึ่งปกติทุกปีเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่คนเดินทางมากที่สุดกว่าทุกเทศกาลของไทย แต่ภาครัฐต้องการชะลอการเดินทางให้ได้มากที่สุด เพื่อควบคุมการระบาดฯ  ซึ่งผลสำเร็จในการลดการเดินทางจะเป็นส่วนหนึ่งที่ชี้วัดการควบคุมการระบาดว่าจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ ในระยะ 1-2 เดือนข้างหน้า โดยทั้ง ศบค. กระทรวงคมนาคม ต้องการให้ประชาชนร่วมมือหยุดการเดินทาง และปฏิบัติตามมาตรการระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ซึ่งจะช่วยให้ลดจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ได้อย่างเห็นผลเป็นรูปธรรม.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมรอบนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤติ

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ในพื้นที่ไข่แดงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ น้ำยังไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่มั่นใจถ้าฝนตกลงมาไม่มากไปกว่านี้จะสามารถดูแลพื้นที่ในเทศบาลนครหาดใหญ่

ปัตตานีจมบาดาล-ถนนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติในหลายจังหวัด เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การระบายน้ำแทบไม่สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายแสนคน

เร่งรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2 จราจรติดขัดหนัก

เหตุแผ่นยกคานปูนและเครนก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงรื้อถอนโครงสร้างที่พังถล่มไม่แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่การจราจร ถ.พระราม 2 ทั้งขาเข้า-ขาออก ติดขัดหนัก แนะเลี่ยงเส้นทาง

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท