จับตานายกฯ เตรียมประกาศเคอร์ฟิว

ทำเนียบฯ 2 เม.ย.-ศบค.เผยผู้ป่วยโควิดเสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวมเป็น 15 ราย ยอดผู้ป่วยเพิ่ม 104 ราย สั่งชะลอการเดินทางเข้าประเทศ 2-15 เม.ย.นี้ จับตา นายกรัฐมนตรี เตรียมประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลา 22.00-04.00 น. หรือไม่ ด้าน กระทรวงต่างประเทศ เผยได้ประสาน  AFS International อย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักเรียนเดินทางกลับประเทศอย่างเป็นระบบ


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า วันนี้ (2 เม.ย.) ไทยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 104 ราย รวมผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,875 ราย รักษาหาย 505 ราย และเสียชีวิตเพิ่ม 3 ราย รวม 15 คน โดยผู้เสียชีวิตล่าสุด รายที่ 13 เป็นชายไทยอายุ 57 ปี มีประวัติการเดินทางไปประเทศปากีสถานและเดินทางกลับประเทศไทยเมื่อ 29 มีนาคมที่ผ่านมาที่สนามบินสุวรรณภูมิ และกำลังเดินทางกลับสุไหงโก-ลกโดยรถไฟเมื่อวันที่ 30 มีนาคม และพบเสียชีวิตบนรถไฟสายกรุงเทพฯ-สุไหงโก-ลก ช่วงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม จากการตรวจสอบ พบมีอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และมีประวัติป่วยเป็นเบาหวานและความดันโลหิตสูง ทั้งนี้เจ้าหน้าที่บนรถไฟจำนวน 15 คน จะต้องมีการกักตัว 

ส่วนผู้เสียชีวิตรายที่ 14 เป็นชายไทยอายุ 77 ปี มีประวัติเป็นโรคถุงลมโป่งพองและโรคเบาหวาน และได้สัมผัสกับผู้ป่วยไวรัสโควิด-19  มีอาการไข้ 38 องศาเซลเซียส ไอและเจ็บคอ ได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลปัตตานีแล้วเสียชีวิตเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา และผู้เสียชีวิตรายที่ 15 เป็นชายไทยอายุ 55 ปี อาชีพขับรถสาธารณะที่สนามบินสุวรรณภูมิ และได้เดินทางกลับบ้านที่จังหวัดสุรินทร์และกลับมายังกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม มีอาการไข้ ไอแห้ง อ่อนเพลีย ไม่มีน้ำมูก และมีอาการเหนื่อยมากขึ้น ได้เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 เมษายน


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ผู้ป่วยรายใหม่ 104 ราย ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่สัมผัสกลุ่มผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ ทั้งจากสนามมวย สถานบันเทิง และผู้ที่ร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย รวมถึงเป็นผู้ที่เดินทาง หรือสัมผัสใกล้ชิด กับผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ขณะที่ผู้ป่วยสะสม 1,875 คนนั้น อยู่ที่กรุงเทพมหานครเป็นอันดับที่หนึ่ง จำนวน 895 คน รองลงมาคือ นนทบุรี 110 คน ภูเก็ต 88 คน สมุทรปราการ 82 คน

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้ให้ความสำคัญกับการเฝ้าระวังผู้ที่เดินทางมาจากนอกพื้นที่ โดยเฉพาะจากต่างประเทศ จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งออกมาตรการเพื่อชะลอการเดินทางของคนต่างชาติ รวมถึงคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ โดยให้ดำเนินการตั้งแต่ วันนี้ จนถึงวันที่ 15 เม.ย. นี้ ยกเว้นกรณีที่มีการขออนุญาตไว้ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กระทรวงมหาดไทยจัดหาหน้ากากอนามัยให้บุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่มีความสุ่มเสี่ยง ในการดูแลประชาชนจำนวน 1 ล้านชิ้นต่อวันและให้ส่งต่อเนื่องทุกวัน 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ ที่ได้ส่งมอบชุดตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 แบบ RT-PCR ซึ่งเป็นวิธีการตรวจที่เป็นมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก สำหรับการหาเชื้อไวรัสนี้ในสภาวะการณ์ปัจจุบัน จำนวน 2 หมื่นชุด และจะส่งมอบอีก 20,000 ชุดในทุก ๆ สัปดาห์ ให้ครบ 1 แสนชุดในเดือนเมษายนนี้ ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์จะมีการกระจายให้ใช้ฟรีตามโรงพยาบาลและห้องปฏิบัติการที่มีเครื่องตรวจทั่วประเทศเกือบ 100 แห่ง


นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า กรมควบคุมโรคได้ทำการสำรวจความร่วมมือของประชาชนในการป้องกันตัวเอง พบว่ามีประชาชนใส่หน้ากากอนามัยและหน้ากากผ้า ร้อยละ 94.03 ล้างมือบ่อย ๆ ร้อยละ 90.47 ล้างมือด้วยแอลกอฮอล์เจล ร้อยละ 85.33 และรักษาระยะห่างจากผู้อื่นอย่างน้อย 1-2 เมตร ร้อยละ 64.81  

ขณะที่การสำรวจการสัญจรของประชาชน พบว่าการเดินทางในวันธรรมดาลดลง เพียงแค่ร้อยละ 20 จึงต้องขอความร่วมมือนายจ้าง ผู้ประกอบการ ให้พิจารณาปรับปรุงการทำงาน เพื่อลดการเดินทางและลดความแออัดในที่ทำงานด้วย เพราะไม่เช่นนั้นจะเป็นความเสี่ยงที่จะเกิดการแพร่กระจายเชื้อไวรัส

ส่วนกรณีผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาจากปากีสถาน นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า การขอเดินทางมาไทยต้องขออนุญาตตั้งแต่ต้นทาง ต้องมีการดูแลตัวเอง 14 วันก่อนเดินทาง มีใบรับรองแพทย์ก่อนขึ้นเครื่อง และต้องไม่มีไข้ โดยจะมีการตรวจทุกสนามบิน ซึ่งหากมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องอยู่ที่บ้าน 14 วัน แต่ปรากฎว่ามีข้อหละหลวมมากมาย สิ่งที่เกิดขึ้นคือการไม่ให้ความร่วมมือ จึงเป็นที่มาของมาตรการชะลอการเดินทางเข้าไทย เพื่อลดการสูญเสียและเจ็บป่วย

สำหรับกรณีนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS ที่จะเดินทางกลับไทยนั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเป็นห่วงคนไทยทุกคน ซึ่งนักเรียน AFS ก็ขอให้ผู้ปกครองติดต่อได้ที่กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตของแต่ละประเทศ ขอให้เลื่อนการเดินทางช้าหน่อย เพื่อความปลอดภัย หากเดินทางกลับมาก็ต้องมีการกักตัว และระหว่างเดินทางอาจจะติดเชื้อบนเครื่องบินก็เป็นได้ ดังนั้น ก็ขอให้นิ่งไว้ก่อน หากสถานการณ์ดีขึ้น การเดินทางค่อยเกิดขึ้นก็ได้ ขอให้ชะลอการเดินทางตามแนวทางของนายกรัฐมนตรีไปก่อน

นพ.ทวีศิลป์  กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรี เห็นภาพบุคลากรทางการแพทย์สวมเสื้อกันฝนเข้าห้องผ่าตัดจึงเป็นห่วงอย่างมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้คาดการณ์ว่า ต้องใช้หน้ากาก N 95 เท่าไหร่ โดยนายกรัฐมนตรีตั้งตัวเลขให้มี 60,000 ชุดต่อวัน เพื่อให้ครอบคลุมทุกคน แต่ทั่วโลกก็ต้องการใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์เหมือนกันทั้งหมด ขณะที่ผู้ผลิตกลับมีน้อยลงทุกวัน อย่างเช่น 3M ก็ไม่ได้ส่งของให้ เพราะน่าจะมีประเด็นที่ต้องแบ่งให้ทางอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ ขณะที่จีนก็ผลิตให้ไม่ทัน ซึ่งเบื้องต้นได้คำสั่งซื้อไปที่จีนถึง 2 ล้านชิ้น โดยบางส่วนจากจีนก็ส่งให้แล้ว 

ยาที่ใช้สำหรับการรักษามีอยู่ 50,000 กว่าเม็ด และได้สั่งจากญี่ปุ่น 40,000 เม็ด ล่าสุดเข้ามาถึงไทยแล้ว และเตรียมสั่งจากจีนอีก 100,000 เม็ด โดยนายกรัฐมนตรีซักถามอย่างละเอียดเพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าประชาชนได้รับการดูแลจากแพทย์ และแพทย์ได้รับการดูแลจากผู้บริหาร ซึ่งการขาดแคลนนั้น ขาดแคลนกันทั่วโลก แม้แต่สหรัฐอเมริกายังต้องร้องขออุปกรณ์ทางการแพทย์จากจีน 

ส่วนกระแสข่าวเตรียมประกาศเคอร์ฟิวช่วงเวลา 22.00- 04.00 น.นั้น นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า  วันนี้ (2 เม.ย.) ขอให้ทุกคนคอยติดตามที่หน้าจอโทรทัศน์ไว้ เพราะนายกรัฐมนตรีห่วงใยประชาชนทุกคน ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีพูดถึงมาตรการจากเบาไปหาหนักมาตลอด จึงขอให้ติดตามเวลาที่จะมีการประกาศอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ทุกคนรับทราบและผนึกเป็นหนึ่งเพื่อร่วมมือกัน โดยนายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้กล่าวด้วยตัวเอง

ด้านนายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า ขอให้ข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องตัวเลขคนเดินทางเข้าประเทศไทย ที่ได้บันทึกไว้ จากด่านตม.ภูเก็ต ดูได้วันที่ 26-30 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา มีแบ่งเป็นผู้โดยสารคนไทยและต่างชาติ รวมถึงลูกเรือ จะเห็นได้ว่าจำนวน 800-900 คน ซึ่งไม่ได้มากนัก ส่วนการเดินทาง เข้า-ออก ราชอาณาจักร ระหว่างวันที่ 23-31 มีนาคม มีตัวเลขที่ลดลงเรื่อย ๆ ความเคลื่อนไหวลดลงตามลำดับ และถือว่าเป็นลบในเดือนมีนาคม จึงสรุปได้ว่า ไม่มีคนเข้าประเทศไทยมากตามที่มีกระแสข่าวและไม่ได้มากจนน่ากังวล  แต่มีความตั้งใจที่จะทำให้น้อยลงกว่านี้ เพราะเป็นส่วนหนึ่งของการลดการแพร่การระบาดของโรคระบาดโควิด-19

นายณัฐภาณุ กล่าวว่า สำหรับในเรื่องการต่างประเทศ วันนี้ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ได้รับทราบและมีมติให้ทำความเข้าใจกับประชาชน เรื่องชะลอเดินทางเข้าไทยถึงวันที่ 15 เมษายน 2563 เพื่อลดการแพร่ระบาดของโควิด-19  ส่วนกลุ่มนักเรียนแลกเปลี่ยน AFS กระทรวงจะประสาน AFS  International อย่างใกล้ชิด เพื่อให้นักเรียนเดินทางกลับประเทศอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

คานถล่มพระราม2

ตร.ทางหลวง แนะเลี่ยงถนนพระราม 2 หลังการจราจรเข้าขั้นวิกฤต

ตำรวจทางหลวง เผยการจราจรถนนพระราม 2 เข้าขั้นวิกฤต แนะเส้นทางเลี่ยงทั้งขาเข้าและขาออกกรุงเทพมหานคร ยังไม่ชัดเปิดการจราจรได้ตามปกติเมื่อใด

คานถล่มพระราม2

“สุริยะ” สั่งผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง ถนนพระราม 2 ตัดสิทธิ์รับงาน 2 ปี

“สุริยะ” รมว.คมนาคม เผยเย็นวันนี้เตรียมกลับไปตรวจสอบสาเหตุคานเหล็กก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถล่ม สั่งการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง รวมทั้งตัดสิทธิ์รับงาน 2 ปี และขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการลดชั้นผู้รับเหมา เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ

น้ำท่วมยะลา

น้ำท่วมยะลาวันที่ 3 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง กระทบ 8 อำเภอ

วิกฤตน้ำท่วมยะลาวันที่ 3 ระดับน้ำเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ย่านการค้าเศรษฐกิจ พื้นที่รอบนอกยังอ่วม ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อุทกภัย สรุปกระทบ 8 อำเภอ ประชาชนเดือดร้อน 131,685 คน