25 มี.ค. – สถานการณ์โรคโควิด-19 ที่แพร่ระบาดในปัจจุบัน ตลาดยางพาราหนีไม่พ้นได้รับผลกระทบไปด้วย ทำให้การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) หารือร่วมกับภาคเอกชน 5 สมาคม เพื่อกำหนดแนวทางในการปรับตัวตลาดยางพาราของไทยทั้งระบบให้มีเสถียรภาพ โดย กยท.จะยังเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุกตามนโยบายของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ โดยมีเป้าหมายช่วยให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับยางพารา ตั้งแต่เกษตรกร สถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบกิจการยาง มีความเข้มแข็งเติบโตอย่างยั่งยืน
ขณะที่ในกลุ่มผู้ประกอบการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ กยท.ต้องเข้าดูแล กยท.จะเป็นแกนกลางในการนำผู้ประกอบการขยายตลาด โดยใช้ความเป็นหน่วยงานรัฐที่มีความน่าเชื่อถือ มีงบประมาณในการสนับสนุนภายใต้กองทุนพัฒนายางพารา
สมาคมยางพาราไทย ยอมรับว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขณะนี้ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากยางแผ่นและยางแท่งที่ใช้ผลิตล้อยางรถยนต์ในจีน เนื่องจากจีนได้ปิดโรงงานอย่างน้อย 2-3 เดือน แต่หลังจากจีนเปิดประเทศจะมีความต้องการยางพารามากขึ้นโดยมีคำสั่งซื้อถึงสิ้นปี อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องพยายามเร่งส่งสินค้าให้ได้โดยเร็วที่สุด
ขณะที่ กยท.ยังมีหน่วยงานรับผิดชอบหลัก คือ หน่วยธุรกิจ ซึ่ง กยท.จะพัฒนาระบบการจัดการบริหารงานของหน่วยธุรกิจให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นศูนย์กลางในการกระจายคำสั่งซื้อสู่สถาบันเกษตรกร และผู้ประกอบการ โดยวางหลักเกณฑ์ในการปฏิบัติที่ทุกคนยอมรับได้. – สำนักข่าวไทย