เข้าสอบสวนโรคบ้านงานเลี้ยงปะทะเจ้าหน้าที่

น่าน 22 มี.ค.- เจ้าหน้าที่เข้าสอบสวนโรค คัดกรองกลุ่มเสี่ยง บ้านงานเลี้ยงที่เกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ พบหนึ่งในผู้ร่วมงานเดินทางกลับมาจากสิงคโปร์ และอยู่ในช่วงกักตัว 14 วัน ขณะที่ผู้ร่วมงานที่มาจากต่างจังหวัดอีกกว่า 50 คน เดินทางกลับบ้านไปแล้ว เตรียมประสานไปยังพื้นที่นั้นๆ ให้เข้าสอบสวนโรค ส่วนกรณีทำร้ายเจ้าหน้าที่ ตั้งข้อกล่าวหาแล้ว 5 ราย



กรณีเกิดเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ซึ่งเข้าไประงับการจัดงานเลี้ยงของชาวบ้าน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ถึงขั้นทำให้เจ้าหน้าที่ต้องชูปืนขึ้นฟ้า เพื่อคุมสถานการณ์

ชาวบ้านปะทะ จนท. ห้ามจัดงานเลี้ยงสกัดโควิด-19


ล่าสุด นายประชา แสนกลาง นายอำเภอสองแคว และนายภูน่าน ธงหิมะ ผอ.รพ.สต.สองแคว พร้อมด้วยนายอุดม ทองสุข กำนันตำบลยอด และเจ้าหน้าที่ รพ.สต.สองแคว เข้าตรวจสอบโรค เพื่อคัดกรองบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่บ้านยอด ต.ยอด อ.สองแคว จ.น่าน โดยเฉพาะคนที่ไปร่วมงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่จำนวนกว่า 50 ราย ที่บ้านนายใจ ใจมั่น จนมีเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองขณะเข้าเตือนให้งดจัดงานป้องกันการแพร่เชื้อโรคโควิด-19 โดยหนึ่งในผู้ร่วมงานเดินทางกลับมาจากประเทศสิงคโปร์ และอยู่ในช่วงควบคุมตัว 14 วัน มาร่วมงาน โดยเจ้าหน้าที่เข้าแนะนำให้คนในครอบครัวกักบริเวณตนเองตามมาตรการป้องกัน และพ่นยาฆ่าเชื้อป้องกันในระดับเบื้องต้น


ขณะที่ผู้ร่วมงานที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ทั้งกรุงเทพฯ ระยอง จันทบุรี ขอนแก่น และเชียงใหม่ อีกมากกว่า 50 ราย เดินทางกลับไปแล้ว หลังสอบสวนทราบภูมิลำเนา จะได้ประสานไปยังพื้นที่นั้นๆ ให้เข้าสอบสวนโรค และใช้มาตการควบคุมโรคกักบริเวณ 14 วัน เพื่อป้องการแพร่เชื้อโรค

พ.ต.อ.บุญส่ง นิกรเถื่อน ผู้กำกับการ สภ.สองแคว เปิดเผยว่า เบื้องต้นมีการสอบปากคำพยานแวดล้อมและผู้อยู่ในเหตุการณ์มากกว่า 5 ราย และรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งการตรวจยึดอาวุธปืนของสารวัตรกำนัน เพื่อตรวจสอบใบอนุญาตและใบพกพาอาวุธปืน รวมทั้งได้รับผลการตรวจร่างกายของสารวัตรกำนันจากโรงพยาบาลสองแคว ซึ่งพบว่าเป็นการถูกทำร้ายร่างกายบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่สาหัส  โดยขณะนี้มีการตั้งข้อกล่าวหากับผู้ทำร้ายร่างกายสารวัตรกำนัน จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นชาว จ.จันทบุรี ที่เดินทางมาร่วมงานดังกล่าว ในฐานความผิดร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงาน โดยผู้ถูกกล่าวหาจะเข้าให้การในวันอังคารนี้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะรวมรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียด และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง