กรุงเทพ 31ม.ค.-อธิบดีกรมการกงสุล ระบุ ปัจจุบันมีคนไทยที่อยู่ในจีนประมาณ 5,030 คน มีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศจีน 9 แห่ง โดยมีคนไทยในมณฑลหูเป่ย์ 161 คน เฉพาะในนครอู่ฮั่น 106 คน ขณะนี้ มีการควบคุมการเข้าออกนครอู่ฮั่น มีช่องทางการติดต่อกับคนไทยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ ผ่านแอปพลิเคชัน WeChat พร้อมจัดตั้ง call center มีเจ้าหน้าที่ตอบคำถาม ตลอด 24 ชั่วโมง
นายชาตรี อรรจนานันท์ อธิบดีกรมการกงสุล ให้สัมภาษณ์สื่อในเครือของกรมประชาสัมพันธ์ว่า ปัจจุบันมีคนไทยที่อยู่ในจีนประมาน 5,030 คน มีสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ในประเทศจีน 9 แห่ง โดยมีคนไทยในมณฑลหูเป่ย์161 คน เฉพาะในนครอู่ฮั่น 106 คน ขณะนี้ มีการควบคุมการเข้าออกนครอู่ฮั่น อย่างไรก็ดี ในเรื่องอาหารการกิน มีการแจ้งช่องทางในการสั่งอาหารแล้ว สภาพความเป็นอยู่ อยู่ในเกณฑ์ดี แต่อาจไม่สะดวกสบายจากเดิมบ้าง ทั้งนี้ช่องทางการติดต่อกับคนไทยสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ คือ แอปลิเคชัน WeChat รวมถึงได้จัดตั้ง call center ของกรมการกงสุลซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตอบคำถาม ตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อถามถึงความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐในการช่วยเหลือคนไทย นายชาตรีกล่าวว่า ยืนยันความพร้อมของรัฐบาลไทยในการช่วยเหลือคนไทย และเข้าใจว่าคนไทยที่นั่นประสงค์จะเดินทางกลับบ้าน ขณะนี้ได้มีคนไทยลงทะเบียนแจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย 135 คน ซึ่งจะต้องดูแลรักษาสุขภาพ เตรียมเอกสารการเดินทางให้พร้อม ในโอกาสนี้ ขอขอบคุณแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุข ที่เข้าร่วมในกลุ่มสื่อสาร WeChat และให้ข้อแนะนำต่างๆ ตนมั่นใจในการซักซ้อมในการประชุมกับทีมของกระทรวงสาธารณสุขเมื่อเช้าวันนี้ ต้องชื่นชมทุกฝ่าย ขณะนี้มีการระบุตัวผู้ที่จะเดินทางไป รวมทั้งได้มีการประสานงานกับจีนในทุกระดับ การดำเนินการทุกช่องทาง แผนงานต้องมีการหารือร่วมกัน และเห็นใจที่จีนอยู่ในภาวะที่ต้องจัดการปัญหาของเขา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมรัฐบาลจีนจึงยังไม่อนุญาตให้คนไทยกลับประเทศ นายชาตรีกล่าวว่า ต้องเข้าใจประเทศจีน ขณะนี้เขาได้ทุ่มเททรัพยากรไปกับการแก้ไขปัญหา ขณะเดียวกันก็ต้องดูแลคนต่างชาติ เราต้องให้อำนาจการตัดสินใจกับจีน ยืนยันว่าในส่วนของเรามีความพร้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ซักซ้อม มีแผนดำเนินการอยู่แล้ว และพร้อมปฏิบัติเมื่อได้ไฟเขียว ขณะเดียวกันเราเชื่อมั่นในรัฐบาลจีนว่าสิ่งที่เขาทำถือเป็นไปตามมาตรฐานสากลและสอดคล้องกับการดูแลตามหลักขององค์การอนามัยโลก นครอู่ฮั่นเป็นที่ที่มีคนอยู่มากรวมถึงชาวต่างชาติ จีนต้องทุ่มเททรัพยากรไปดูแลคนของเขา และคนต่างชาติด้วย ในสภาวการณ์เช่นนั้นต้องถือว่าจีนทำได้ดี
“เราเข้าใจว่าทุกคนอยากกลับบ้าน รัฐบาลไทยและส่วนราชการไทยก็อยากทำให้เร็ว อยากให้คนไทยกลับมาให้เร็วและเข้าใจความรู้สึก แต่ขณะเดียวกันเราต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่เคร่งครัด ซึ่งถือเป็นเรื่องของประโยชน์สาธารณะ ไม่ใช่ประโยชน์ของคนใดคนหนึ่งหรือของประเทศใดประเทศหนึ่ง แต่เป็นภัยพิบัติเรื่องโรคระบาดของโลก ดังนั้นขั้นตอนของจีนจึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ เราอยากไปเร็วแต่ต้องเห็นใจจีนที่ต้องสกัดปัญหา ขณะเดียวกันทางการจีนก็ต้องเข้าใจความรู้สึกของคนไทยเช่นเดียวกัน” นายชาตรี กล่าว .-สำนักข่าวไทย