สธ.28 ม.ค.-กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันไทยพบผู้ติดเชื้อ “ไวรัสโคโรนา” รายใหม่ 6 คน เป็นหญิง 2 และชาย 4 มีทั้งเด็ก-ผู้ใหญ่ ทั้งหมดเป็นชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ 5 คนเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนอีก 1 คนมาในกรุ๊ปเดียวกัน รวมขณะนี้ไทยมีผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อ 14 คน กลับบ้านแล้ว 5 คน และนอนรักษาใน รพ.อีก 9 คน
กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) รายงานข่าวกรณีโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ( Novel Coronavirus 2019) ประจำวันที่ 28 มกราคม 2563
1.สถานการณ์ ถึงวันที่ 28 มกราคม 2563 ณ เวลา 08.00 น.
1.พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อจากต่างประเทศ 14 ราย (กลับบ้านแล้ว 5 ราย อีก 9 รายนอนโรงพยาบาล) ไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศไทย
2.มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคต้องเฝ้าระวัง ตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 ถึง 27 มกราคม 2563 มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนต้องเฝ้าระวังสะสมทั้งหมด 136 ราย คัดกรองจากสนามบิน 29 ราย มารับการ รักษาที่โรงพยาบาลเอง 107 ราย อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้ว 55 ราย ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล ยังคงรับไว้ในห้องแยกโรค 81 ราย
3.สถานการณ์ทั่วโลก ข้อมูล ตั้งแต่ 5 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 27 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 2,802 ราย ใน 13 ประเทศ และ 2 เขตปกครองพิเศษ ส่วนประเทศจีน ข้อมูล ณ วันที่ 27 มกราคม 2563 พบผู้ป่วย 2,744 ราย เสียชีวิต 80 ราย
4.ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข สถานการณ์จะดีขึ้นด้วยความร่วมมือจากประชาชน อย่าเชื่อข่าวลือจากทุกทาง “เช็คก่อนแชร์” ข้อมูลผู้ป่วยทางสื่อออนไลน์ เพื่อไม่ให้ข้อมูลไม่ถูกต้องแพร่หลาย เกิดความตระหนก และมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ โปรดติดตามข่าวสารจากกระทรวงสาธารณสุข หากมีข้อสงสัย สอบถามที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php และ Line@ / เพจเฟซบุ๊ก : รู้กันทันโรค, เพจเฟซบุ๊ก : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
2.สธ.เผยพบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโรคปอดอักเสบจากเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่ม 6 ราย เป็นนักท่องเที่ยวจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ (Hubei)
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่ากระทรวงสาธารณสุขยืนยันพบผู้ป่วยรายใหม่ 6 ราย (หญิง 2 ราย ชาย 4 ราย)มีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยชาวจีนจากเมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย์ โดย 5 รายเป็นครอบครัวเดียวกัน ส่วนอีก 1 ราย แต่เดินทางมาในกรุ๊ปเดียวกัน ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ 2 ครั้ง ได้ผลบวก รอเข้าคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอีกครั้งในบ่ายวันนี้ ทำให้ปัจจุบันนี้ไทยพบผู้ติดเชื้อทั้งหมดรวม 14 ราย ขณะนี้ทุกรายอาการดีขึ้น กลับบ้านได้แล้ว 5 ราย ยังอยู่โรงพยาบาล 9 ราย
นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า วันนี้ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มข้นและยกระดับระบบการคัดกรองผู้เดินทางที่สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง โดยผู้โดยสารทุกคน ทุกเที่ยวบิน ที่เดินทางมาจากจีน จะผ่านการตรวจคัดกรอง ด้วยเครื่องวัดไข้อัตโนมัติเทอร์โมสแกนทุกรายบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมือง นอกจากนี้ยังเพิ่มจุดคัดกรองบริเวณประตูทางเชื่อมก่อนเข้าอาคารผู้โดยสาร กรณีผู้โดยสารที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด อย่างไรก็ตาม ขอให้ช่วยกันเฝ้าระวังและดูแลตัวเอง ให้ความร่วมมือกับทางการ หากพบนักท่องเที่ยวเป็นหวัดควรให้คำแนะนำไปพบแพทย์ ประชาชน นักท่องเที่ยว นักศึกษาหรือผู้เดินทางมาจากประเทศจีน มีข้อสงสัย โทรปรึกษาได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 ตลอด 24 ชั่วโมง
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงสถานการณ์ตามข้อเท็จจริงโดยไม่ปิดบังข้อมูลใดๆ ตามข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หากพบผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อฯ ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค จะไม่ปิดบังข้อมูล จะแจ้งให้ทราบทุกราย และให้ยึดหลักการ “ชีวิตและสุขภาพของประชาชนสำคัญที่สุด” พร้อมขอให้มั่นใจว่าการดำเนินงานของรัฐบาลอยู่ในระดับมาตรฐานสากล การคัดกรองได้ผลดี การรักษาได้ผลดี สถานการณ์โดยรวมขณะนี้ถือว่าสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า โรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 แม้ยังไม่มียารักษา ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรค นักวิทยาศาสตร์อยู่ระหว่างการศึกษาวิจัย ซึ่งไทยได้ติดตามความก้าวหน้าอย่างใกล้ชิด แต่โรคนี้สามารถป้องกันได้ด้วยตนเอง ขอให้ทุกคนดูแลร่างกายให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงอยู่ใกล้ชิดกันกับผู้ที่มีอาการโรคระบบทางเดินหายใจ ยึดหลัก “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย”
ขณะนี้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้พัฒนาห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ ให้สามารถตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ด้วยเทคนิค Real-Time RT-PCR (IRT.PCR) มีความแม่นยำ เชื่อถือได้รู้ผลภายใน 3 ชั่วโมง เป็นประโยชน์ต่อการวางแผนรักษา ช่วยให้มีความพร้อมรับมือสถานการณ์ระบาดของโรค อ่านต่อได้ที่ https://www3.dmsc.moph.go.th/post-view/666
ในส่วนกรมอนามัย ขอแจ้งเตือนประชาชนที่ต้องอยู่ในกลุ่มคนหนาแน่น หรือพื้นที่เสี่ยงต่อการสัมผัสโรค ขอให้หมั่นล้างมือด้วยน้ำและสบู่ หากไม่สะดวกให้ใช้เจลล้างมือ ทั้งก่อนกินอาหารและหลังจากเข้าส้วม พร้อมสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน ลดการสัมผัสและแพร่กระจายของเชื้อโรค อ่านต่อได้ที่https://multimedia.anamai.moph.go.th/news/news270163/
“ในวันนี้เราได้เชิญตัวแทนนักศึกษาภาคใต้ซึ่งจากกลับจากมณฑลเหอเป่ย (Hebei) ประเทศจีน มารับมอบอุปกรณ์ป้องกันตนเอง ซึ่งนักศึกษากลุ่มนี้มีรายงานข่าวในบางสื่อว่าเดินทางมาจากเมืองหูเป่ย์(Hubei)และมีอาการป่วย กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่านักศึกษาทั้ง13 คน ทุกคนสบายดี ได้รับการดูแลจากเจ้าหน้าที่กรมควบคุมโรค ไม่พบการติดเชื้อ เตรียมกลับบ้านที่ภาคใต้เย็นวันนี้” นพ.สุขุม กล่าว
โดยบ่ายวันนี้เจ้าหน้าที่ได้ออกรณรงค์ให้ความรู้ประชาชนในการป้องกันตนเอง สุขอนามัยส่วนบุคคล พร้อมแจกเอกสาร หน้ากากอนามัย บริเวณด้านหน้าห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน และจะดำเนินการต่อเนื่องในพื้นที่ที่ประชาชนหนาแน่ทุกวัน เพื่อสร้างความตระหนัก ไม่ตระหนก เกิดความร่วมมือจากประชาชน
3. ผลการดำเนินงานที่ด่านควบคุมโรค
-จากการตรวจคัดกรอง 5 สนามบิน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ ภูเก็ต กระบี่ ได้ตรวจคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศด้วยเครื่องวัดอุณหภูมิ สะสมตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2563 ถึง วันที่ 25 มกราคม 2563 จำนวน 31 เที่ยวบิน จำนวน 21,522 คน และในวันที่ 24-27 มกราคม ได้คัดกรองเที่ยวบินจากกว่างโจวและฉางชุน29 เที่ยวบิน ผู้เดินทางและลูกเรือได้รับการคัดกรอง 3,507 คน ทางกระทรวงสาธารณสุขได้จัดเจ้าหน้าที่หมุนเวียนไปสนับสนุนเจ้าหน้าที่ที่ด่าน เพื่อให้การทำงาน
มีประสิทธิภาพตลอด 24 ชั่วโมง
– นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับแจกคำแนะนำสุขภาพ (health beware card) จากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรค
4. ข้อแนะนำประจำวันในการป้องกันตนเองจากโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 สาธารณรัฐประชาชนจีนประกาศปิดการเดินทางสาธารณะที่เข้าออกเมืองอู่ฮั่นและพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ทุกช่องทาง และประชาชนควรปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้
• ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นและเมืองที่มีการระบาดตามคำประกาศของทางการจีน
• ระหว่างเดินทางในต่างประเทศขอให้หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด หรือมีมลภาวะ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยไอจาม แนะนำควรสวมหน้ากากอนามัย
• หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วย หรือตาย และหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารรวมถึงเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี
• หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น และปฏิบัติตามคำแนะนำ “กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ” อย่างเคร่งครัด
• ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น (เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว) เนื่องจากเชื้อก่อโรคทางระบบทางเดินหายใจสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
• รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
• หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
• หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 หรือเว็บไซต์ https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/intro.php และ Line@/เพจเฟซบุ๊ค : รู้กันทันโรค เพจเฟซบุ๊ค : กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข .-สำนักข่าวไทย