กรุงเทพฯ 25ม.ค.- ชาวอู่ฮั่นตกค้างในไทย 2 หมื่นรายหลังจีนประกาศปิดเมืองสกัดกั้นโคโรนาไวรัส ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดศูนย์อำนวยความสะดวกรองรับ พร้อมคุมเข้มการป้องกันทำความสะอาดถี่ขึ้น ติดตั้ง Thermo Scan วัดไข้จากสายการบินที่มาจาก “กวางโจว” 13 เที่ยวบิน/วัน กำหนดจุดจอดที่อาคารเทียบเครื่องบินเป็นการเฉพาะ
นาวาอากาศโท สุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ตามที่ กำลังมีสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ระบาดเมืองอู่ฮั่นและเริ่มมีการแพร่ระบาดไปยังเมืองอื่นๆในสาธารณรัฐประชาชนจีน ทางการจีนจึงมีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคฯ โดยมีการปิดระบบขนส่งสาธารณะในการเดินทางเข้า – ออกเมืองอู่ฮั่น ส่งผลให้สายการบิน China Southern Airlines ที่ทำการบิน ณ ทสภ. จำนวน 3 เที่ยวบิน มีการยกเลิกเที่ยวบินไปจนถึงวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2563
การยกเลิกเที่ยวบินดังกล่าวอาจส่งผลให้มีผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยมาก่อนหน้าที่ทางการจีนจะประกาศปิดสนามบิน ไม่สามารถเดินทางกลับไปยังเมืองอู่ฮั่นได้ ซึ่งปัจจุบัน พบตัวเลขว่าได้เดินทางเข้ามาในเดือนที่ผ่านมาประมาณ 20,000 คนอย่างไรก็ตามการเดินทางออกไปนั้นจะต้องไปตรวจสอบตัวเลขสถิติ จากสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ( ตม.)อีกครั้ง ดังนั้น เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารชาวจีนที่ตกค้าง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยความสะดวกให้บริการผู้โดยสาร (AIRPORT OPERATION CENTER)ในระหว่างวันที่ 25 มกราคม – 9 กุมภาพันธ์ 2563 ณ ห้อง CIP 5 ชั้น 3 อาคารผู้โดยสาร หมายเลขโทรศัพท์ 0 2132 9950 โดยมีเจ้าหน้าที่, สายการบิน ,ตม. ตำรวจท่องเที่ยว ฯลฯ ประจำศูนย์ตลอด 24 ชั่วโมง และ ยังได้มีการจัดล่ามภาษาจีนคอยให้บริการและแนะนำข้อมูลให้กับผู้โดยสารชาวจีนอีกด้วย
ส่วนมาตรการในการเฝ้าระวังและคอยติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยมีการประสานการทำงานแบบบูรณาการร่วมกับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ สายการบิน ตม. และหน่วยงานอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น และล่าสุดได้เพิ่มการคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองกวางโจว ที่พบการระบาดด้วย โดยท่าอากาศยานสุวรรณ ได้ขอความร่วมมือให้สายการบินที่มีเที่ยวบินมาจากเมืองดังกล่าวไปจอดที่อาคารเทียบเครื่องบินที่กำหนดเป็นการเฉพาะ ซึ่งด่านควบคุมโรคฯ จะทำการติดตั้งเครื่อง Thermo Scan เพื่อตรวจวัดอุณหภูมิผู้โดยสารบริเวณอาคารเทียบเครื่องบินที่ถูกกำหนด เพื่อทำการคัดกรองตามขั้นตอนของกระทรวงสาธารณสุข หากพบผู้ป่วยต้องสงสัย ด่านควบคุมโรคฯ จะทำการตรวจร่างกายเพิ่มเติมและติดต่อสถาบันบำราศนราดูรเพื่อมารับตัวไปรักษาต่อไป
นอกจากนี้แล้ว ท่าอากาศยานสุวรรณ ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลด้านสุขอนามัยให้กับผู้ใช้บริการท่าอากาศยาน โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดอุปกรณ์และพื้นที่ที่ผู้โดยสาร อาทิ รถเข็นกระเป๋า ห้องน้ำ จุดกรอกเอกสาร ตม.ขาเข้า บริเวณเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ และบริเวณเครื่องออกบัตร Taxi Kiosk เป็นต้น รวมทั้ง ได้ติดตั้งเครื่องจ่ายแอลกอฮอล์เจลล้างมือ ณ บริเวณทางออกประตูเทียบเครื่องบินขาเข้าทุกประตูและพื้นที่อื่น ๆ ที่มีผู้โดยสารใช้บริการจำนวนมาก
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวด้วยว่า ท่าอากาศยานสุวรรณจะมีการเฝ้าระวังสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและ มีการเตรียมแผนรองรับไว้หากมีการประกาศเกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวเพิ่มเติม โดยพร้อมสนับสนุนการทำงานของด่านควบคุมโรคฯ อย่างเต็มที่ในทุกด้าน อย่างไรก็ตามท่าอากาศยานสุวรรณ ขอให้ผู้โดยสารที่กำลังจะมีแผนการเดินทางไปยังเมืองต่างๆในประเทศจีนในช่วงเวลานี้ คอยติดตามรับฟังข่าวสารอย่างใกล้ชิด เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคดังกล่าวมีแนวโน้มจะระบาดไปยังเมื่องอื่นของจีนเพิ่มเติม ขอความกรุณาผู้โดยสารตรวจสอบตารางการบินก่อนเดินทางมาสนามบิน และกรุณาสอบถามข้อมูลเที่ยวบินได้ที่สายการบินที่ท่านจะเดินทางว่าสามารถเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้หรือไม่ เพื่อไม่ต้องมาตกค้างที่สนามบิน หรือเสียเวลาเดินทางเข้ามายัง ทสภ. สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง
ปัจจุบัน ท่าอากาศยานสุวรรณ มีเที่ยวบินที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น โดยสายการบิน ไชน่าเซาท์เทิรน์ แอร์ไลน์ จำนวน 3 เที่ยวบินต่อวัน (ขาเข้า 3 เที่ยวบิน และขาออก 3 เที่ยวบิน) ซึ่งได้ทำการยกเลิกเที่ยวบินไปแล้วตั้งแต่ 24 มกราคมที่ผ่านมาและมีเที่ยวบินที่เดินทางจากเมืองกวางโจว โดยสายการบินไทย สายการบินไชน่า เซ้าเทิรน์แอร์ไลน์ สายการบินสปริงค์ แอร์ไลน์ สายการบินเคนยา แอร์เวย์ รวมมีเที่ยวบินขาเข้า 13 เที่ยวบิน และขาออก 12 เที่ยวบิน-สำนักข่าวไทย