ภูมิภาค 21 ม.ค. – หลายพื้นที่ยังคงเผชิญสถานการณ์ภัยแล้ง โดยที่ รพ.หนองมะโมง จ.ชัยนาท ได้รับผลกระทบหนัก น้ำใต้ดินเหลือน้อย ทำให้ต้องซื้อน้ำบาดาลจากเอกชนมาใช้ผลิตน้ำประปา
สถานการณ์ภัยแล้ง ส่งผลให้โรงพยาบาลหนองมะโมง จ.ชัยนาท กำลังได้รับผลกระทบอย่างหนัก เพราะความแห้งแล้ง ทำให้น้ำใต้ดินเหลือน้อย จึงทำให้แหล่งน้ำบาดาลของโรงพยาบาลที่ใช้สูบน้ำขึ้นมาผลิตน้ำประปา จำนวน 2 แห่ง มีน้ำไม่เพียงพอ สูบน้ำได้เพียงวันละ 23,000 ลิตร ขณะที่โรงพยาบาลมีความต้องการใช้น้ำวันละ 40,000-50,000 ลิตร ทำให้โรงพยาบาลต้องซื้อน้ำบาดาลจากแหล่งน้ำของเอกชนเป็นประจำทุกวัน วันละ 20,000 ลิตร เป็นเงินวันละ 400 บาท เข้าไปเก็บไว้ในถัง เพื่อใช้สำหรับผลิตน้ำประปา
ทั้งนี้ โรงพยาบาลยังได้ขอรับการสนับสนุนจากเทศบาลตำบลหนองมะโมง ให้นำรถบรรทุกน้ำไปช่วยขนน้ำมาเติมในถังให้ทุกวัน ส่วนสำนักงานชลประทานที่ 12 จะนำรถบรรทุกน้ำไปขนน้ำมาเติมให้ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อช่วยโรงพยาบาลให้มีน้ำใช้เพียงพอ ไม่กระทบกับผู้ป่วยและการรักษา รวมทั้งการดำเนินงานต่างๆ ภายในโรงพยาบาล
เช่นเดียวกับที่ จ.นครราชสีมา สถานการณ์ภัยแล้งส่งผลกระทบต่อโรงพยาบาล ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ 4 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลแก้งสนามนาง จะขาดน้ำในเดือนกุมภาพันธ์ เร่งประสานของบขุดเจาะบ่อบาดาล เพราะเกรงว่าจะไม่ทัน ขณะที่โรงพยาบาลเทพารักษ์ จะขาดน้ำในเดือนมีนาคม ขณะนี้ได้เร่งประสานงานกับอำเภอในการจัดหาน้ำดิบมาเติมให้ถังเก็บน้ำ และขุดเจาะบ่อบาดาลโดยด่วน ส่วนโรงพยาบาลบ้านเหลื่อม คาดว่าจะประสบปัญหาในเดือนเมษายน เร่งประสานขอสนับสนุนงบโครงการสร้างระบบประปาทดแทน และงบสนับสนุนสร้างถังเก็บน้ำใสสำรอง ขนาด 300 ลบ.ม. จำนวน 3 ชุด และโรงพยาบาลบัวลาย จะประสบปัญหาในเดือนเมษายน เร่งประสานขุดเจาะบ่อบาดาล 2 บ่อ และจัดทำประปาผิวดิน เนื่องจากจะมีการเปิดตึกใหม่ และบ้านพักแพทย์พยาบาลเพิ่มเติม อย่างไรก็ตาม ได้มีมาตรการเตรียมความพร้อมและแก้ไขปัญหาภัยแล้งในโรงพยาบาล โดยทำแผนสำรองน้ำให้เพียงพอ ประสานหน่วยงานปกครองท้องถิ่นจัดหาแหล่งน้ำสำรอง หรือจุดเจาะบ่อบาดาล เพื่อไม่ให้กระทบการบริการผู้ป่วย และรณรงค์ช่วยกันประหยัดน้ำ
หลายพื้นที่ จ.มหาสารคาม เริ่มประสบกับภาวะภัยแล้ง น้ำไม่เพียงพอสำหรับอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร การประปาส่วนภูมิภาคจังหวัดมหาสารคาม ได้คุมเข้มมาตรการและแนวทางลดความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำผลิตประปาในฤดูแล้ง โดยนาย ณ.เณร วัฒนกูล ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาค สาขามหาสารคาม กล่าวว่า ได้ดำเนินการสำรวจและประเมินแหล่งน้ำดิบแม่น้ำชีที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน ว่ามีปริมาณน้ำเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งหรือไม่ เพราะระยะเวลายังอีกหลายเดือน โดยได้เตรียมแผนดำเนินการสร้างฝายกั้นน้ำชั่วคราวด้วยบิ๊กแบ็ก 2 จุด ควบคู่กับการสำรวจแหล่งน้ำที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงเพิ่มเติม สำหรับใช้เป็นแหล่งน้ำดิบสำรอง พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานชลประทานมหาสารคาม ขอใช้น้ำในอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน เพื่อเตรียมความพร้อม หากจำเป็นต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำดิบสำรอง. – สำนักข่าวไทย