กรุงเทพฯ 8 ม.ค. – รัฐมนตรีพาณิชย์เป็นประธานประชุมกรรมการร่วมการค้าไทย-บังกลาเทศ วางเป้าผลักดันมูลค่าการค้า 2 ฝ่าย ทะลุ 60,000 ล้านบาทในปี 64
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย-บังกลาเทศ ครั้งที่ 5 ซึ่งจะเป็นกลไกสําคัญในการกําหนดทิศทางขับเคลื่อนการค้าสินค้า บริการ และการลงทุนระหว่างสองประเทศให้เป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น โดยหัวข้อการหารือครอบคลุมการส่งเสริมความร่วมมือในสาขา ศักยภาพ อาทิ อุตสาหกรรม เกษตร ประมงและปศุสัตว์ บริการสุขภาพและสาธารณสุข และความเชื่อมโยงด้าน คมนาคม ควบคู่กับการส่งเสริมการค้าและการลงทุน โดยมีเป้าหมายสำคัญผลักดันให้มูลค่าการค้า 2 ฝ่ายบรรลุเป้าหมาย 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 60,000 ล้านบาท ภายในปี 2564
ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลากว่า 47 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับบังกลาเทศได้พัฒนาอย่างต่อเนื่องทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจ สําหรับไทย บังกลาเทศ คือ หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจที่สําคัญ ทั้งด้านการค้า การลงทุน และความเชื่อมโยงด้านคมนาคม ปี 2561 บังกลาเทศเป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทยในภูมิภาคเอเชียใต้ การค้าระหว่างไทยกับบังกลาเทศมีมูลค่า 1,259 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกจากไทยไปบังกลาเทศมูลค่า 1,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนําเข้าจากบังกลาเทศ 59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2562 ไทยนําเข้าจากบังกลาเทศเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 38.33 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าสินค้านําเข้าที่มีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น เช่น ด้ายปอกระเจา รองเท้า และเสื้อผ้าสําเร็จรูป เป็นต้น แสดงให้เห็นถึงความสนใจของไทยในสินค้าจากบังกลาเทศเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม การลงทุนโดยตรงจากไทยไปบังกลาเทศปี 2549 – 2562 มีมูลค่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยธุรกิจไทยด้านอุตสาหกรรมเกษตรและเกษตรแปรรูป การก่อสร้าง การโรงแรม และบริการที่เกี่ยวข้อง ขณะที่การลงทุนโดยตรงของบังกลาเทศในไทยปี 2549 – 2561 มีมูลค่า 1.12 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยจุดแข็งของที่ตั้งทางยุทธศาสตร์ของไทยและบังกลาเทศจะเป็นปัจจัยส่งเสริมให้การค้า สินค้า บริการ และการลงทุนได้รับการต่อยอดสู่ภูมิภาคใกล้เคียง โดยไทยมีที่ตั้งอยู่บนจุดเชื่อมต่อทางบก และทางทะเลของอาเซียนและมีโครงสร้างพื้นฐานและกฎระเบียบรองรับการลงทุนผ่านโครงการเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก หรืออีอีซี จะสามารถเป็นจุดกระจายสินค้าของบังกลาเทศสู่อาเซียนและภูมิภาคเอเชียตะวันออก ขณะเดียวกันบังกลาเทศตั้งอยู่บนจุดยุทธศาสตร์ของมหาสมุทรอินเดีย และเป็นส่วนหนึ่งของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางของจีนที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยเอื้อต่อการเป็นประตการค้าให้กับสินค้าและบริการของไทยสู่ตลาดเอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา โดยไทยผลักดันให้ทั้ง 2 ฝ่ายเร่งรัดการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างท่าเรือระนองของไทยและท่าเรือจิตตะกองของบังกลาเทศ เพื่อเป็นช่องทางขนส่งสินค้าที่สําคัญระหว่างกัน
นอกจากนี้ ยังได้เชิญชวนนักธุรกิจและผู้นำเข้าจากบังกลาเทศมาเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติในไทย เช่น งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair 2020 งาน THAIFEX – Anuga Asia 2020 งาน TILOG-LOGISTIX 2020 และ งาน STYLE Bangkok 2020 และจะจัดนำคณะนักธุรกิจไทยไปร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติที่บังกลาเทศ รวมทั้งเชิญชวนฝ่ายบังกลาเทศให้เริ่มการเจรจา FTA ระหว่างไทยและบังกลาเทศโดยเร็วที่สุดด้วย
ทั้งนี้ นอกจากการประชุมหารือแล้ว ยังมีการจัดงานสัมมนาส่งเสริมการค้าและการลงทุนในบังกลาเทศ เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับโอกาส กฎระเบียบ และสิทธิพิเศษด้านการค้าและการลงทุน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ ผู้ประกอบการและนักลงทุนไทย สําหรับการวางแผนธุรกิจและการเข้าไปลงทุนในบังกลาเทศและที่สําคัญจะเป็นการต่อยอดการทํางานของรัฐบาลสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย