ตาก 3 ม.ค.-รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจความคืบหน้าคดีขโมยตู้ ATM ของธนาคารกสิกรไทย ตั้งข้างร้านสะดวกซื้อริมถนนจอมพล อ.เมืองตาก หลังจับหนึ่งในคนร้ายได้
ความคืบหน้าคดีคนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้เวลาเพียง 2-3 นาที ขโมยยกตู้เอทีเอ็มของธนาคารกสิกรไทยทั้งตู้ ที่ตั้งอยู่ข้างร้านสะดวกซื้อริมถนนจอมพล อ.เมืองตาก ใส่รถกระบะโตโยต้าสีบรอนซ์เงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน แล้วขับหลบหนีเมื่อเวลาตี 03.00 น. ของวันที่ 24 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยพบชิ้นส่วนของตู้ตกหล่นระหว่างการหลบหนีด้วย
ต่อมาตำรวจ สภ.เมืองตาก ตรวจสอบกล้องวงจรปิดและสามารถตามจับนายนที ศรศิลปาวุธ อายุ 31 ปี หนึ่งในคนร้ายได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.สามหมื่น อ.แม่ระมาด ผู้ต้องหาให้การว่า หลังเกิดเหตุได้ขับรถกระบะที่บรรทุกตู้เอทีเอ็มหนีขึ้นเขาไปที่บ้านผาผึ้ง ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า ก่อนจะใช้เครื่องมือชำแหละชิ้นส่วนตู้เอทีเอ็ม ได้เงินสดจำนวน 1,098,700 บาท แล้วเอาตู้เอทีเอ็มไปทิ้งไว้ในไร่ข้าวโพดแห่งหนึ่ง ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด
ล่าสุดที่ สภ.เมืองตาก พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ได้มาตรวจความคืบหน้าของคดี ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองตาก รายงานว่าได้ขยายผลไปถึงเพื่อนร่วมแก๊งที่ยังหลบหนีอยู่อีก 3 คน และเป็นทนายความอีก 1 คน เป็นคนวางแผนปล้น ส่วนเงินของกลาง ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอีก 3 คน นำติดตัวไปด้วย ขณะนี้เจ้าหน้าที่รู้ตัวและที่อยู่แล้ว แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ เนื่องจากเกรงว่าคนร้ายจะไหวตัวหลบหนีไปได้
เมื่อเช้าวันที่ 1 มกราคม ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดตากระดมกำลังกว่า 50 นาย เดินทางไปที่บ้านผาผึ้ง ต.เชียงทอง อ.วังเจ้า รอยต่อบ้านห้วยเหลือง ต.แม่ท้อ อ.เมือง ซึ่งเป็นสถานที่ที่แก๊งปล้นตู้เอทีเอ็ม นำตู้เอทีเอ็มไปชำแหละแยกชิ้นส่วน เพื่อนำเงินจำนวน 1,098,700 บาท ออกจากตู้ แล้วแยกย้ายกันหลบหนี เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเพื่อค้นหาหลักฐาน พบตู้เอทีเอ็มถูกทิ้งลงในเหวลึกกว่า 30 เมตร บริเวณเชิงเขารอยต่อหลังหมู่บ้าน ชิ้นส่วนกระจัดกระจาย มีร่องรอยถูกเผาทำลาย เจ้าหน้าที่ต้องใช้เชือกโรยตัวลงไปเอาชิ้นส่วนขึ้นมาอย่างทุลักทุเล เนื่องจากเป็นเหวลึก โดยเฉพาะตู้เอทีเอ็มมีน้ำหนักกว่า 300-400 กิโลกรัม ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยดึงขึ้นมาจากเหวลึกได้สำเร็จ เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 10 ชั่วโมง จึงรวบรวมชิ้นส่วนของตู้เอทีเอ็มทั้งหมดได้
พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ได้รับรายงานความคืบหน้าของคดี ถือว่าการทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว สามารถรวบรวมพยานหลักฐานได้ครบถ้วน ส่วนการติดตามจับกุมคนร้ายอยู่ในระหว่างดำเนินการ ต้องให้เวลาชุดทำงานได้เร่งติดตามคนตัวคนร้าย ขณะนี้พอทราบเบาะแสบ้างแล้ว คงใช้เวลาไม่นานจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายทำงานร่วมกันดำเนินคดีอย่างรอบคอบ เนื่องจากคนร้ายรอบรู้กฎหมาย แต่ไม่หนักใจ เพราะจะดำเนินคดีไปตามหลักพยานหลักฐาน.-สำนักข่าวไทย