อุตรดิตถ์ 24 ธ.ค. – น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนายพิเชษฐ์ วิริยะพาหะ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์และเจ้าหน้าที่กรมส่งเสริมสหกรณ์ ลงพื้นที่แปลงของเกษตรผู้ปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนา หมู่ 4 ต.บ้านหม้อ อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นแปลงข้าวโพดหลังนาของสมาชิกสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด ที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังนา ผ่านระบบสหกรณ์ ปีการผลิต 2562/63 ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ทั้งนี้ เกษตรกรตำบลบ้านหม้อ อ.พิชัย ปลูกข้าวโพดหลังฤดูทำนาปี โดยใช้เครื่องจักรกลในการกำจัดวัชพืช และไม่ใช้สารเคมี คือมีการดัดแปลงรถไถ่นาเดินตามที่มีอยู่แทบทุกครอบครัว ในการไถ่กลบวัชพืช และขณะที่ไถ่กลบจะใส่ปุ๋ยเพื่อบำรุงต้นข้าวโพดไปด้วย จะไม่ใช้สารเคมีหรือยาฆ่าหญ้าในการกำจัดวัชพืชแปลงข้าวโพด และวัชพืชที่ไถกลบจะกลายเป็นปุ๋ยหมักชั้นดีในการบำรุงดินข้าวโพดและดินให้มีความชุ่มชื้นตลอดเวลา นอกจากจะเป็นการลดการใช้สารเคมีแล้วยังลดต้นทุนได้ด้วย
จากนั้นได้ตรวจเยี่ยมตลาดรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างโดยเงินทุนของสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด กว่า 20 ล้านบาท จะเป็นตลาดรับซื้อผลผลิตทางการเกษตรที่ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นรับซื้อ ปรับคุณภาพ แยกเกรดผลผลิต และจัดส่งทั้งข้าว ข้าวโพด ถั่ว และพบปะเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมการปลูกข้าวโพดหลังนา ของสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด โดยนายธนากร อึ้งจิตรไพศาล ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์ นำเกษตรกรให้การต้อนรับ
น.ส.มนัญญา กล่าวว่า หลังฤดูทำนาปี เกษตรกรตำบลบ้านหม้อปรับที่นาปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และใช้เครื่องจักรกลกำจัดวัชพืชโดยไม่ใช้สารเคมี ซึ่งจะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ -มีนาคม 2563 คาดว่าจะได้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ประมาณ 1,300 กิโลกรัม สหกรณ์รับซื้อความชื้อ 27% กิโลกรัมละ 6.50 บาท เกษตรกรมีรายได้ 8,450 บาทต่อไร่ โดยมีต้นทุนต่อไร่ 8,580 บาท จะช่วยให้เกษตรกรมีกำไรถึง 3,870 บาทต่อไร่ มูลค่ารวมกว่า 109 ล้านบาท ถือว่าสหกรณ์การเกษตรบ้านหม้อ จำกัด เป็นต้นแบบสหกรณ์ในการรวมกลุ่มที่เข้มแข็ง ส่งเสริมอาชีพ สมาชิกมีรายได้สูงขึ้นอย่างยั่งยืน. – สำนักข่าวไทย