“มนัญญา” เมินฉายา “มาดามแบนเก้อ” เดินหน้าควบคุมสารเคมีอันตราย

กรุงเทพฯ 23 ธ.ค. – “มนัญญา” ไม่สนฉายา “มาดามแบนเก้อ” ย้ำทุ่มเททำงานได้ผล เร่งเครื่องออกประกาศกระทรวงเกษตรฯ ควบคุมการผลิตและบรรจุสารเคมีทางการเกษตร ป้องกันเล่ห์ลวงผู้ประกอบการ ผสมเจือจางหรือเติมสารอื่น หวั่นกรรมตกแก่เกษตรกรและผู้บริโภค


น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า รู้สึกขำฉายา “มาดามแบนเก้อ” ที่ผู้สื่อข่าวทำเนียบรัฐบาลตั้ง ที่ผ่านมาตั้งใจแบนสารเคมีอันตรายทางการเกษตรเต็มที่ ซึ่งไม่ใช่แบนไม่ได้ แต่ตามกระบวนการที่เกิดขึ้นทำให้การแบนต้องเลื่อนไปจากความตั้งใจเดิมออกไป 6 เดือน ล่าสุดสั่งการอธิบดีกรมวิชาการเกษตรให้ยกร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3 ฉบับ เพี่อรองรับมติคณะกรรมการวัตถุอันตรายเมื่อ 27 พฤศจิกายน 2562 ควบคุมโรงงานผลิตและบรรจุทางการเกษตร โดยนำมาตรฐาน ISO มากำกับเพื่อให้มีคุณภาพ แก้ปัญหาการผสมที่เจือจางหรือผสมสารปรุงแต่งที่ไม่เป็นไปตามทะเบียน รวมทั้งตรวจสอบย้อนกลับได้ ทำให้เกษตรกรไม่ถูกหลอกขายสารเคมีคุณภาพต่ำ รวมทั้งเกิดความปลอดภัยทั้งต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

ทั้งนี้ ประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประกอบด้วย เรื่อง กำหนดให้โรงงานที่จะผลิตสารเคมีทางการเกษตร ต้องมีมาตรฐาน ISO 9001 มีการจัดการเรื่องสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐาน ISO 14001 โรงงานผลิตวัตถุอันตรายต้องมี ISO / IEC 170025 ซึ่งกำหนดให้ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์สำหรับวิเคราะห์ทดสอบสารเคมีเป็นไปตามมาตรฐานสากล ขณะนี้อธิบดีกรมวิชาการเกษตรอยู่ระหว่างยกประกาศกระทรวงเกษตรฯ ใหม่ 3 ฉบับ ซึ่งคาดว่าจะต้องนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการวัตถุอันตรายรับทราบ จากนั้นจึงจะเสนอให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงนาม


น.ส.มนัญญา กล่าวต่อว่า ขณะนี้ไม่ได้อนุญาตให้นำเข้าพาราควอตและคลอร์ไพริฟอส เพื่อให้ภาคเอกชนจัดการสตอกที่มีอยู่ในประเทศ ก่อนที่การแบนจะมีผลในวันที่ 1 มิถุนายน 2563 ส่วนไกลโฟเซตคณะกรรมการวัตถุอันตรายมีมติจำกัดการใช้ ที่ผ่านมาได้ระงับการนำเข้าชั่วคราว แต่จากนี้ไปต้องควบคุมปริมาณการนำเข้าให้สอดคล้องกับการใช้ตามมาตรการจำกัดการใช้ ดังนั้น ปริมาณการนำเข้าต้องลดลง นอกจากนี้ ได้ตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วย หน่วยราชการ เอกชน ผู้ผลิต นำเข้า จำหน่าย ผู้ทรงวุฒิร่วมศึกษาว่า สารเคมีทางการเกษตรที่มีกว่า 300 ชนิด อนุญาตให้ใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น มีชนิดใดที่ควรยกเลิกหรือจำกัดการใช้ โดยพิจารณาให้เสร็จในเวลา 90วัน หากพบว่าสารใดมีอันตรายจะยกเลิกต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมรอบนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤติ

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ในพื้นที่ไข่แดงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ น้ำยังไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่มั่นใจถ้าฝนตกลงมาไม่มากไปกว่านี้จะสามารถดูแลพื้นที่ในเทศบาลนครหาดใหญ่

ปัตตานีจมบาดาล-ถนนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติในหลายจังหวัด เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การระบายน้ำแทบไม่สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายแสนคน

เร่งรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2 จราจรติดขัดหนัก

เหตุแผ่นยกคานปูนและเครนก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงรื้อถอนโครงสร้างที่พังถล่มไม่แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่การจราจร ถ.พระราม 2 ทั้งขาเข้า-ขาออก ติดขัดหนัก แนะเลี่ยงเส้นทาง

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท