นนทบุรี 13 ธ.ค. – พาณิชย์มอบของขวัญปีใหม่ จับมือภาคเอกชน จัดงาน “พาณิชย์ ลดปัง ข้ามปี” ลดราคาสินค้าสูงสุดร้อยละ 70
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าภายในประสานงานกับภาคเอกชน เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับคนไทยทั่วทั้งประเทศ โดยเฉพาะภาคเอกชนที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ประกอบด้วย สมาคมผู้ค้าปลีกไทย สมาคมค้าส่งประเทศไทย ผู้ผลิต ผู้จำหน่ายสินค้าห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้าท้องถิ่น และปีนี้เข้าร่วมเป็นกรณีพิเศษ คือ ผู้ประกอบการรถยนต์ และผู้ประกอบการเกี่ยวกับดูแลรถยนต์ที่พร้อมใจกันร่วมมือกับกระทรวงพาณิชย์ลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภค เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศ
“เน้นย้ำอีกครั้งว่าพาณิชย์ ลดปัง ข้ามปี New Year Grand Sale 2020 ของกระทรวงพาณิชย์นี้จะเป็นการลดราคาสินค้ามากถึงร้อยละ 70 และมี Outlet หรือร้านค้ารวมกันทั่วทั้งประเทศประมาณ 20,000 แห่ง ภายใต้ความร่วมมือของผู้ประกอบการทั้งหมด 54 ราย เป็น 2 สมาคม และ 52 บริษัทสินค้าทั้งหมดที่มาลดราคามีด้วยกันทั้งหมด 10 หมวด ประกอบด้วย อาหารเครื่องดื่ม ของใช้ประจำวัน เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์เพื่อการเกษตร เสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย อุปกรณ์ก่อสร้าง อุปกรณ์กีฬา และยางรถยนต์ สำหรับยางรถยนต์ลด ร้อยละ 20-30 รวมทั้งค่าบริการตรวจเช็คเครื่องยนต์ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องนอนเครื่องสำอางเครื่องเขียนเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งบ้านอื่น ๆ ลดร้อยละ 10-70 และที่สำคัญสินค้าที่นำมาเข้าร่วมจะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 6 เดือน” นายจุรินทร์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม โครงการนี้ทำทั่วทั้งประเทศและเรื่องการ Kick Off วันนี้ถือเป็นการ Kick Off ใหญ่ เพราะการลดจะเริ่มตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (14 ธ.ค.) เป็นต้นไปและสิ้นสุดวันที่ 12 มกราคม 2563 สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะเดินทางไปกับอธิบดีกรมการค้าภายในไป Kick Off อีกครั้งหนึ่ง สำหรับ “พาณิชย์ ลดปัง ข้ามปี New Year Grand Sale 2020 ” ที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือจะดำเนินการที่จังหวัดอุบลราชธานีวันที่ 16 ธันวาคม และภาคเหนือจะไปที่เชียงใหม่กับตาก สำหรับภาคใต้จะเป็นจังหวัดนครศรีธรรมราช และดำเนินการให้ครบทุกภาค เพื่อให้เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับพี่น้องทั้งประเทศ ซึ่งจะมีส่วนช่วยสนองนโยบายรัฐบาลกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการจับจ่ายใช้สอยของประชาชน แต่เป็นการจับจ่ายใช้สอยที่พิเศษตรงที่เงินเท่าเดิมสามารถซื้อสินค้าได้มากขึ้น หรือสินค้าที่ใช้จ่ายประหยัดเงินกระเป๋าได้มากขึ้นเพื่อจะนำเงินมาใช้จ่ายด้านอื่นด้วย
ทั้งนี้ คาดว่าจะสามารถช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชนได้ถึงร้อยละ 30 คิดเป็นเงิน 21,600 ล้านบาท และมีเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่า 50,000 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย