ซ้ำซาก!!ขอประนามผู้ก่อเหตุยกพวกตีกัน ในโรงพยาบาลอ่างทอง

กรุงเทพฯ 10 พ.ย.- ซ้ำซาก!!ขอประนามผู้ก่อเหตุยกพวกตีกัน ในโรงพยาบาล ล่าสุดที่อ่างทอง จนเกิดความเสียหาย ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ถึงแม้ที่ผ่านมาตำรวจจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทุกรายก็ตาม 


 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึง กรณีตามที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข่าวเกี่ยวกับคู่กรณียกพวกทำร้ายร่างกายกัน ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เมือง จว.อ่างทอง หลังได้รับรายงานจาก สภ.เมืองอ่างทอง ว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ย. 62 เวลาประมาณ 01.00 น. ได้รับแจ้งเหตุมีวัยรุ่นยกพวกตีกัน จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุดังกล่าวเกิดบริเวณร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง ริมถนนสายอ่างทอง-อยุธยา ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.อ่างทอง โดยกลุ่มคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทอง เพื่อทำการรักษาตัว

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องจึงรีบไปตรวจสอบ ระหว่างนั้นได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลอ่างทอง ว่ากลุ่มคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่าย ได้ตามมาก่อเหตุทำร้ายกันและมีปากเสียงบริเวณหน้าห้องฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าไประงับเหตุจนสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ จากนั้นกลุ่มวัยรุ่นทั้ง 2 จึงแยกย้ายกัน ก่อนพาคนเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย แยกย้ายไปรักษากันคนละที่


รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า ที่ผ่านมามีการก่อเหตุความรุนแรงในสถานพยาบาลต่างๆ มาแล้วหลายครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้นำตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดทุกราย

ทั้งนี้ขอฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน ว่าการใช้อารมณ์ในการแก้ไขปัญหา อาจนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน และนำไปสู่การละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมือง นอกจากจะส่งผลเสียต่อตนเองและผู้อื่นแล้ว อาจถูกดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย ซึ่งทำให้ทั้งเสียเวลาและมีประวัติตามมา 

โดยการกระทำในลักษณะดังกล่าวนั้น ไม่สมควรเอาเป็นเยี่ยงอย่างเพราะอาจกระทบต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลที่อยู่ระหว่างการช่วยเหลือรักษาผู้ป่วยรายอื่นหรือทำให้ทรัพย์สิน อุปกรณ์ทางการแพทย์ของโรงพยาบาลได้รับความเสียหายได้ และอาจส่งผลกระทบต่อผู้ป่วย หรือประชาชนรายอื่น ที่เข้ามาใช้บริการภายในโรงพยาบาล ดังนั้นการจะทำสิ่งใดขอให้มีสติ และใช้วิจารณญาณก่อนจะลงมือกระทำ เพราะเมื่อกระทำไปแล้วอาจนำมาซึ่งความสูญเสียต่อชีวิต และทรัพย์สินของผู้อื่น ซึ่งไม่สามารถย้อนกลับไปแก้ไขได้


ซึ่งที่ผ่านมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับไปยังทุกกองบัญชาการ และได้เน้นย้ำมาโดยตลอด ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกพื้นที่ เพิ่มมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันเหตุด่วน เหตุร้ายอาชญากรรมในทุกมิติ พร้อมประสานการปฏิบัติกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการหาความร่วมมือในการป้องกันเหตุ

อีกทั้งเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา ทั้งจุดตรวจ จุดสกัด ตรวจค้นรถทุกชนิดและบุคคลเป้าหมาย โดยเน้นการตรวจค้น จับกุม อาวุธปืน อาวุธสงคราม ยาเสพติด บุคคลตามหมายจับ และสิ่งผิดกฎหมายต่างๆ เพื่อลดอาชญากรรมและป้องกันภัยที่อาจเกิดขึ้น .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้นบ้านสามารถ

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ” คดีฟอกเงินดิไอคอน

ดีเอสไอเข้าค้นบ้าน “สามารถ เจนชัยจิตรวนิช” คดีฟอกเงินดิไอคอน หลังพบเงิน “บอสดิไอคอน” โอนเข้าบัญชีแม่ของนายสามารถ

หมอบุญ

THG แจงบริษัทไม่เกี่ยวข้องคดีต่างๆ ที่เกิดจาก “หมอบุญ”

THG แจงตลาดหลักทรัพย์ฯ ปัจจุบัน “หมอบุญ” ไม่ได้ดำรงตำแหน่งกรรมการและผู้บริหารใน THG คดีฉ้อโกงใดๆ ที่เกิดขึ้น บริษัทไม่เกี่ยวข้อง

คะแนนไม่เป็นทางการ เลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ

ลุ้นผลคะแนนเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช นับเสร็จแล้วบางหน่วย ล่าสุด ณ เวลา 19.40 น. “วาริน ชิณวงศ์” เบอร์ 2 จากทีมนครเข้มแข็ง ชนะคู่แข่งขาดลอยในหลายหน่วย คะแนนทิ้งห่างแชมป์เก่า “กนกพร เดชเดโช” เบอร์ 1 จากพรรค ปชป.

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ข่าวแนะนำ

งด ครม.

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” วันศุกร์

งด ครม. ทำเนียบวันนี้ เตรียมสัญจรครั้งแรก “เชียงใหม่-เชียงราย” ศุกร์นี้ นายกฯ ตั้งเป้าปีหน้าน้ำท่วมภาคเหนือต้องไม่เกิดอีก ด้าน ศปช. เตรียมเสนอแผนแก้อย่างเป็นระบบใน ครม.สัญจร ศุกร์นี้

วิเคราะห์การเมืองสนามใหญ่ หลังศึกเลือกตั้งนายก อบจ.

วิเคราะห์ผลการเลือกตั้งนายก อบจ. 4 สนามใหญ่ โดยเฉพาะอุดรธานี ที่สะท้อนถึงความนิยมในตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี