3 พ.ย.-กรมการค้าภายใน เตรียมออกมาตรการควบคุมราคายาโรงพยาบาลเอกชน หลังวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนราคายา พบยาลดไขมันฟันกำไรกว่าหมื่นเปอร์เซ็นต์ ยาแก้ปวดกำไรเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ และมีหลายรายการที่ขายแพงเกินจริง
เป็นข้อถกเถียงกันมานานถึงมาตรการควบคุมราคายาเวชภัณฑ์และค่าบริการต่างๆ ที่ผู้บริโภคมองว่าถูกเอาเปรียบจากโรงพยาบาลเอกชน ล่าสุด กรมการค้าภายในร่วมกับคณะบัญชี จุฬาฯ วิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนยาเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ โดยนำร่องในยา 6 ชนิด เช่น ยาลดไขมัน Beststin ที่มีช่วงราคาขายตั้งแต่ 2 – 61 บาทต่อเม็ด มีกำไรจากต้นทุนกว่า 185 ถึงเกือบ 12,000 เปอร์เซ็นต์ ยาแก้ปวดลดไข้ Tylenol ราคาขาย 1 – 22 บาทต่อเม็ด มีกำไรจากต้นทุนกว่า 26 ถึงเกือบ 4,500 เปอร์เซ็นต์ ยาลดความดัน Anapril ราคาขาย 2 – 56 บาทต่อเม็ด มีกำไรจากต้นทุน 150 ถึงกว่า 9,000 เปอร์เซ็นต์ ยารักษาลมชัก Depakime ราคาขาย 300 ถึงเกือบ 1,400 บาทต่อเม็ด มีกำไรจากต้นทุนกว่า 26 – 470 เปอร์เซ็นต์ และยารักษามะเร็ง Herceptin ราคาขาย 86,500 – 234,767 บาทต่อหน่วย กำไรจากต้นทุน 10 ถึงเกือบ 190 เปอร์เซ็นต์
รองอธิบดีกรมการค้าภายใน ระบุโรงพยาบาลเอกชน แจ้งว่าจะมีคิดกำไรจากยาเพียง 5-10% อ้างเป็นต้นทุนด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับยา แต่การวิเคราะห์จากการแจ้งราคาต้นทุนยา และราคาขายยาของโรงพยาบาลเอกชน ซึ่งมีอยู่ 352 แห่งทั่วประเทศ พบว่า มีกำไรจากยาสูงกว่าที่แจ้งไว้หลายเท่าตัว โดยทั้งปัจจัยด้านทำเลสถานที่ตั้ง มาตรฐาน JCI ขนาดจำนวนเตียงและรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ล้วนไม่ได้มีความสัมพันธ์ต่อการกำหนดราคายา แต่โรงพยาบาลเอกชนส่วนใหญ่กำหนดราคายาบนพื้นฐานความพึงพอใจของแต่ละแห่ง
กรมการค้าภายใน ยังจัดทำฐานข้อมูลแยกกลุ่มและประเภทของโรงพยาบาลเอกชนทั้งระบบให้ชัดเจน เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุน ค่ายาเวชภัณฑ์และค่าบริการในรายการอื่นๆ ต่อไป หลังจากเสร็จสิ้น จะประกาศข้อกำหนดการคิดค่ายาและบริการที่เป็นธรรมกับผู้บริโภค บังคับใช้กับโรงพยาบาลเอกชนทุกแห่ง
ปัจจุบันผู้บริโภคที่ใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนบางแห่ง สามารถเช็กราคายาบางรายการจากการแสกนคิวอาร์โค้ดที่กรมการค้าภายในกำหนดได้ว่า อยู่ในราคาที่เหมาะสมหรือแพงเกินจริง โดยในอนาคตจะครอบคลุมชนิดยาหลายรายการมากขึ้น และต้องทำได้ในโรงพยาบาลทุกแห่ง ส่วนผู้ที่ถูกเอาเปรียบ เข้าร้องเรียนได้ที่ศูนย์รับแจ้งความคดียาเวชภัณฑ์และค่าบริการแพง กรมการค้าภายใน ซึ่งขณะนี้มีการร้องเรียนเรื่องคิดราคาแพงเข้ามาแล้วกว่า 30 ราย เริ่มดำเนินคดีแล้ว 3 ราย.-สำนักข่าวไทย