16 ต.ค.-“อดีตพระพุทธอิสระ” ชี้แจงเหตุเตรียมกลับมาบวชใหม่ 5 ธ.ค.นี้ เพราะไม่ได้ยินดีที่จะลาสิกขาตั้งแต่ต้น พร้อมยกกรณี “พระพิมลธรรม” เป็นกรณีตัวอย่าง
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ อดีตพระพุทธอิสระ ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย โพสต์ Facebook ส่วนตัว ยอมรับกระแสข่าวกลับมาอุปสมบทใหม่ในวันที่ 5 ธันวาคมนี้เป็นเรื่องจริง พร้อมระบุว่า ขณะถูกจับกุมในคดีที่เกิดขึ้น ช่วงที่ตำรวจกองปราบฯ นิมนต์หลวงพ่อเจ้าคณะเขต เจ้าอาวาสวัดเสมียนนารี มาทำหน้าที่สึกออกจากความเป็นพระ ขณะนั้นได้กราบเรียนไปว่า ตนเองไม่ได้ละเมิดต่ออาบัติร้ายแรง จนทำให้ขาดจากความเป็นพระ “จึงไม่ยินดีกล่าวคำลาสิกขา” จากนั้นพอออกจากเรือนจำจึงตั้งใจว่าจะกลับมาห่มจีวรอีก แต่มีกฎของมหาเถรสมาคมที่ออกมาใหม่ว่า ภิกษุที่อยู่ในการคุมประพฤติ ห้ามกลับมาบวชจนกว่าจะหมดเวลาคุมประพฤติ ดังนั้น ตนเองจะสิ้นสุดการคุมประพฤติวันที่ 29 ตุลาคม 2562 ก็จะสามารถกลับไปห่มจีวรได้อีก โดยมีกำหนดการในวันที่ 5 ธันวาคม
อดีตพระพุทธอิสระ ระบุด้วยว่า แม่ของตนเองป่วยติดเตียงและอายุมากแล้ว จึงอยากเห็นลูกชายกลับไปนุ่งผ้าเหลืองอีกครั้ง
อดีตพระพุทธอิสระ โพสต์ Facebook เพิ่มเติมว่า ตามหลักพระธรรมวินัยนั้น การพ้นจากความเป็นภิกษุมีเหตุ 3 ประการ คือ มรณภาพ, ต้องอาบัติปาราชิก และ กล่าวคำลาสิกขา พร้อมยกตัวอย่างกรณี “พระพิมลธรรม” แห่งวัดมหาธาตุ ที่ถูกดำเนินคดีฐานกระทำเป็นคอมมิวนิสต์และทำลายความมั่นคงของรัฐ แต่ไมได้กล่าวคำลาสิกขา พอพ้นโทษออกมาก็แสดงความ “ปาริสุทธิในศีล” และกลับมาบวช จนกระทั่งได้ดำรงตำแหน่งรักษาการสมเด็จพระสังฆราช ก่อนได้รับการสถาปนาเป็นพระสังฆราชในเวลาต่อมา
สำหรับกรณีของ “พระพุทธอิสระ” ถูกดำเนินคดีเมื่อปีที่แล้ว ข้อหาปล้นทรัพย์ และเป็นหัวหน้าอั้งยี่ซ่องโจร เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2557 ระหว่างการชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่ม กปปส. ก่อนถูกกำลังตำรวจกองปราบปรามเข้าบุกจับที่กุฏิภายในวัดอ้อน้อย เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 24 พฤษภาคม 2561 กระทั่งต่อมาได้ถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญาและจำเป็นต้องลาสิกขา เนื่องจากศาลไม่ให้ประกันตัว โดยขณะนั้นอดีตพระพุทธอิสระยอมถอดจีวรและเปลี่ยนมาใส่ชุดขาว
หลังจากนั้นเมื่อพนักงานสอบสวนส่งสำนวนให้อัยการส่งศาลประทับรับฟ้อง อดีตพระพุทธอิสระก็ได้รับการประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 200,000 บาทในวันที่ 16 สิงหาคม 2561 กระทั่งเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2561 ศาลจึงพิพากษาจำคุก 3 ปี แต่จำเลยรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่งเหลือจำคุก 1 ปี 6 เดือน โดยให้รอลงอาญา 1 ปี และคุมประพฤติ.-สำนักข่าวไทย