ปักกิ่ง 16 ต.ค. – ผลสำรวจของสำนักข่าว AFP ที่ประมวลจากการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ 13 คน ระบุว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ GDP ของจีนในไตรมาสที่ 3 ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน มีการเติบโตเพียงร้อยละ 6 ซึ่งถือเป็นไตรมาสที่มีการเติบโตต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2535 และเติบโตในอัตราที่ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ซึ่งมีการเติบโตที่ร้อยละ 6.2
การเติบโตที่ลดลงของ GDP จีน เป็นผลมาจากอุปสงค์ในประเทศลดลง โดยแม้จีนจะลดภาษี ลดดอกเบี้ย และลดข้อบังคับกับนักลงทุนต่างชาติในการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถกระตุ้นการลงทุน เพื่อชดเชยอุปสงค์ในประเทศที่ลดลงได้
ขณะเดียวกันอุปสรรคทางการค้าจากพิษของสงครามการค้ากับสหรัฐ ก็เป็นอีกปัจจัยที่กัดกร่อนเศรษฐกิจจีน โดยตัวเลขการนำเข้าและส่งออกในเดือนกันยายนปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด หลังสหรัฐใช้มาตรการภาษีใหม่ในเดือนดังกล่าว และแม้สหรัฐกับจีนจะเพิ่งบรรลุข้อตกลงการค้าบางส่วนกันไป แต่กว่าจะมีผลบังคับใช้ก็อีกหลายสัปดาห์.-สำนักข่าวไทย
