กรุงเทพฯ 16 ต.ค.- แจ้งข้อหา 4 นายตำรวจ สภ.แม่กา พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง กรณียิงรถต้องสงสัยขนยาเสพติด พลาดถูกหัว ด.ช.13ปีตาย ค้นเจอแค่เหล้าเถื่อน
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่กา จว.พะเยา ใช้อาวุธปืน ยิงสกัดจับรถยนต์กระบะต้องสงสัย หลบหนีจุดตรวจ-จุดสกัด จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2562 เวลาประมาณ 14.30 น. สภ.วังเหนือ จว.ลำปาง ได้รับแจ้งเหตุใช้อาวุธยิงกันบริเวณสามแยกทางเข้าบ้านเมืองตึง(ข้างตู้ยามวังทอง)ต.วังทอง อ.วังเหนือ จ.ลำปาง พนักงานสอบสวน พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน และผู้ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบ รถกระบะวีโก้ สีบรอนซ์เงิน ป้ายทะเบียน บท-5457 ลำปาง จอดอยู่ สภาพล้อยางทั้ง 4 เส้นแบนที่เกิดเหตุนายมานพ สูงขาว อายุ 34 ปี (ผู้ขับขี่รถยนต์) และ ด.ช.กฤษณพงษ์ สูงขาว อายุ 13 ปี (บุตรชาย) ถูกลูกกระสุนปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณศรีษะ นำตัวส่งโรงบาลวังเหนือ
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประจำ สภ.แม่กา จว.พะเยา ได้ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด บริเวณถนนสายวังเหนือ-พะเยา ได้รับแจ้งจากผู้หวังดี แจ้งว่ามีรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีเทา ทะเบียน บพ- 5457 ลำปาง ขนยาบ้ามาจากอำเภอวังเหนือมุ่งหน้าไปจังหวัดพะเยา ต่อมาเวลาประมาณ 13.50 น. พบรถยนต์ต้องสงสัยตรงกับที่ได้รับแจ้ง จึงได้แสดงตนเพื่อขอตรวจค้น แต่ชายคนดังกล่าวได้กลับรถและขับรถหลบหนี มุ่งย้อนกลับไปอำเภอวังเหนือ จึงได้ขับรถไล่ติดตาม เมื่อถึงบริเวณที่เกิดเหตุ นายมานพฯ(ทราบชื่อภายหลัง) ได้ขับรถชนท้ายรถแทรคเตอร์ของชาวบ้านและพยายามจะถอยรถมาชนรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ใช้อาวุธปืนประจำกายยิงไปที่รถของ นายมานพฯ เมื่อเห็นว่ารถได้จอดนิ่งแล้วจึงได้เข้าตรวจสอบพบว่ามี ด.ช.กฤษณพงศ์ฯถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ถูกนำส่ง รพ.วังเหนือ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา จากการตรวจค้นรถยนต์ต้องสงสัย พบ สุรากลั่นยังไม่ผ่านการเสียภาษีสรรพสามิต จำนวน 18 ถุง จึงได้ทำการตรวจยึดเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า สำหรับคดีนี้จะแบ่งสำนวนการสอบสวนออกเป็น 3 สำนวน คือ สำนวนคดีซื้อหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสุราที่ผลิต โดยฝ่าฝืน , สำนวนคดีชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต และ สำนวนคดีฆ่าผู้อื่น ซึ่งในเบื้องต้นหลังจากเกิดเหตุ พนักงานสอบสวน สภ.วังเหนือ ได้แจ้งข้อกล่าวหาเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องจำนวน 4 นาย ในข้อหา ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น ไปแล้ว และจะมีการเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมหลังจาก ด.ช.กฤษณพงษ์ฯ เสียชีวิต ในส่วนการดำเนินการทางวินัยนั้น พล.ต.ต.ธรรมศักดิ์ ปิ่นทอง ผบก.ภ.จว.พะเยา ได้มีคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและให้ความกระจ่างแก่สังคม
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานและสอบสวนอย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว และให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงทางคดีเป็นสำคัญ ประกอบการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องที่เกิดขึ้น ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีการนำหลักการของยุทธวิธีตำรวจและการตัดสินใจใช้อาวุธปืน อย่างเพียงพอหรือไม่ กระทำการเกินกว่าเหตุหรือไม่ ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
อย่างไรก็ตาม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ยึดหลักตามยุทธวิธีตำรวจ ที่ได้รับการฝึก อบรม ทบทวน มาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ ตั้งจุดตรวจ-จุดสกัด , การตรวจค้นบุคคล-ยานพาหนะ , การจับกุม ประกอบกับการตัดสินใจใช้อาวุธปืนในภาวะวิกฤติต่างๆ โดยนำมาปรับใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมกับหมั่นฝึกทบทวนอยู่เป็นประจำ เพื่อให้เกิดความเคยชิน ลดการสูญเสีย และสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน โดยจะต้องยึดหลัก กระทำการตามอำนาจหน้าที่ อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย และใช้หลักยุทธวิธีตำรวจควบคู่กันไป .-สำนักข่าวไทย