กรุงเทพฯ 10 ต.ค. – บอร์ดกองทุนฯอนุรักษ์ เห็นชอบงบ 5 ปีใหม่ เหลือปีละ 1 หมื่นล้านบาทลดลงจากแผนเดิม 2 พันล้านบาท/ปี ปรับเงินส่งเสริมพลังงานทดแทน เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30เป็น 47 และหนุนโรงไฟฟ้าชุมชนผลิตไฟฟ้าใช้เอง โดยเตรียมเปิดให้ของบรอบใหม่ ธ.ค.นี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน เปิดเผย ภายหลังการประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่มีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่าที่ประชุม ได้กำหนดกรอบการใช้งบกองทุนฯ 5 ปี (2563-2567 ) ในวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท ปีละ 1 หมื่นล้านบาท โดยปรับสัดส่วนการส่งเสริมใหม่ จากแผนเดิม(แผนปี 2560-2564 วงเงิน 6 หมื่นล้านบาท หรือปีละ 1.2 หมื่นล้านบาท) โดยปรับสัดส่วน แผนส่งเสริมพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 30 เป็นร้อยละ 47 ลดสัดส่วนแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานลงจากร้อยละ 67 เหลือร้อยละ 50 และคงสัดส่วนแผนบริหารจัดการไว้ที่ร้อยละ 3 โดย กรอบการใช้งบฯที่น้อยลง เป็นผลมาจากการจัดเก็บเงินกองทุนฯจากผู้ใช้น้ำมันลดลง จากเดิม 25 สตางค์/ลิตรเหลือ 10 สตางค์/ลิตร ตั้งแต่ปี 2561 ทั้งนี้จะมีการเสนอกรอบการใช้เงินนี้เข้าสู่ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานภายในปลายเดือน ตุลาคมนี้
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ที่ประชุมยังแต่งตั้ง 4 อนุกรรมการฯ เพื่อดูแลการใช้เงินกองทุนอนุรักษ์ฯ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งในแง่การส่งเสริม การกลั่นกรองและติดตามการใช้เงิน ซึ่งโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ในส่วนของชุมชุนขนาดเล็กที่ผลิตไฟฟ้าใช้เอง ไม่มีการขายเข้าระบบ ก็สามารถเสนอโครงการเพื่อขอใช้เงินกองทุนอนุรักษ์ฯ ได้
“หลังจาก กพช.เห็นชอบ ก็จะมีการเปิดให้ ชุมชนและหน่วยงานต่างๆเสนอโครงการ เพื่อขอใช้งบกองทุนฯ น่าจะเริ่มได้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 62 โดยแผนงานย่อยมีการสนับสนุนหลากหลายโครงการเช่น การลดต้นทุนเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตเพิ่มเศรษฐกิจฐานราก กลุ่มงานนวัตกรรม กลุ่มงานสร้างภาพลักษณ์และข้อมูลข่าวสาร เป็นต้น โดยที่ผ่านมาชุมชนหลายพื้นที่ได้ขอใช้งบฯเพื่อนำแผงโซลาร์ไปสูบน้ำเพื่อการเกษตร ” นายสนธิรัตน์กล่าว . – สำนักข่าวไทย