กทม.5 ต.ค.- สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขปัญหาควันพิษ PM 2.5
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยแนวทางป้องกันแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและการบูรณาการกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ว่า หลัง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. รับนโยบายของนายกรัฐมนตรีได้มอบหมาย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร. ลงไปกำกับดูแล กำชับการปฏิบัติของตำรวจทุกภาคส่วน พร้อม พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบดูแลงานจราจร
ล่าสุดวันนี้ (5 ต.ค.)พล.ต.อ.สุวัฒน์ ,พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ ได้ร่วมกับ กทม., กรมควบคุมมลพิษ, กรมเจ้าท่า, กรมขนส่งทางบก, กรมโรงงานอุตสาหกรรม, ขสมก., ข้าราชการตำรวจในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม ณ กองบังคับการตำรวจจราจร เพื่อหาแนวทางแก้ไขสภาพปัญหาที่เกี่ยวข้อง ตามสาเหตุหลักอาทิ เช่น ปัญหาจราจร จากการนำรถที่มีสภาพเครื่องยนต์ไม่พร้อมก่อให้เกิดควันดำมาใช้บนถนน, การเผาในที่โล่งในภาคเกษตรกรรม, การปล่อยมลพิษทางอากาศของภาคอุตสาหกรรม และการก่อสร้างและผังเมืองที่ไม่มีคุณภาพ เป็นต้น ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีข้อสั่งการ ให้กองบัญชาการที่เกี่ยวข้องเพิ่มมาตรการตรวจสอบ และบังคับใช้กฎหมายกับรถควันดำบรฝนท้องถนน, ให้ บช.ก.(ปทส.)เพิ่มมาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการโรงงานที่มีลักษณะการปล่อยการมลพิษทางอากาศ, ให้เพิ่มมาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายผู้กระทำความผิดลักลอบเผาพืชไร่และพื้นที่เพาะปลูกเพือทำการเกษตร
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ห่วงใยสุขภาพของพี่น้องประชาชน จึงกำชับให้ทุกหน่วยร่วมกันขับเคลื่อนมาตรการการลดฝุ่นละอองให้เป็นรูปธรรมอย่างจริงจังและต่อเนื่อง และให้กองบัญชาการทุกพื้นที่ที่เกี่ยวข้องทำการบูรณาการกับทุกภาคส่วน อาทิ กรุงเทพมหานคร ,กรมควบคุมมลพิษ ภาคเอกชน รวมทั้งประชาชนในพื้นที่ร่วมกันแก้ไขปัญหาหมอกควัน และค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกินค่ามาตรฐานในพื้นที่ที่มีปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 ซึ่งพบว่ามีสาเหตุมาจากหลายสาเหตุ อีกทั้งให้เจ้าหน้าตำรวจในพื้นที่ออกตรวจตราป้องกันเหตุร้ายเหตุด่วน พร้อมประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือประชาชน งดการเผาในที่โล่งเพื่อป้องกันการเพิ่มสูงขึ้นของฝุ่นละอองอย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่ประชาชนอยู่ในพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพ ขอให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง ควรสวมใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก รวมทั้งหากสังเกตพบอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจไม่ออก คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอกเป็นต้น ควรรีบไปพบแพทย์หรือสถานพยาบาลใกล้บ้าน อีกทั้งหากพบเหตุเพลิงไหม้ หรือไฟป่า สามารถแจ้งเหตุได้ตามสถานีตำรวจใกล้บ้านท่าน หรือหมายเลขสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชม. ทั้งนี้ สามารถติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศได้ทางเว็บไซต์ http://air4thai.pcd.go.th และแอพลิเคชั่น.-สำนักข่าวไทย