สุพรรณบุรี 8 ส.ค.-คืบหน้าเหตุคนร้ายขโมยตู้เอทีเอ็มหน้าร้านสาลี่แม่บ๊วย อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี กลางดึกเมื่อวานนี้ ภายในมีเงินสดไปกว่า 4 ล้าน หลบหนีไป ล่าสุดชุดสืบสวนเร่งลงพื้นที่แกะรอยไล่ล่าคนร้าย จากภาพวงจรปิด เชื่อเป็นมืออาชีพ
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านสาลี่แม่บ๊วย ต.สาลี อ.บางปลาม้า จ.สุพรรณบุรี พบคนร้ายคาดว่ามีไม่ต่ำกว่า 4 คน ขับรถกระบะอีซูซุ รุ่น ดีแมกซ์ สีขาว ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เข้ามาจอดหน้าร้าน เวลาประมาณ 03.30 น. ก่อนหนึ่งในคนร้ายรูปร่างผอม สูงประมาณ 170 เซนติเมตร อายุประมาณ 40 ปี ใส่หมวกแก็ปปิดบังใบหน้า จะเดินลงมาจากรถไปสำรวจตู้เอทีเอ็ม และเดินกลับมาที่รถเพื่อเอาอุปกรณ์ไปงัดตู้เอทีเอ็ม ระว่างนั้นมีคนร้ายอีกคนไปกดหน้ากล้องวงจรปิดลงพื้น ก่อนช่วยกันงัดตู้เอทีเอ็มน้ำหนักประมาณ 300 กิโลกรัม และภายในมีเงินสดกว่า 4.2 ล้านบาท ยกขึ้นรถขับหลบหนีไปตามถนนสุพรรณบุรี-ชัยนาท
พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ชุดสืบสวนภาค 7 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบร่องรอยของคนร้าย และตรวจดูจากกล้องวงจรปิดอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งกำชับให้เร่งคลี่คลายคดี โดยมีการส่งชุดสืบสวนทั้งภาค 7 และชุดสืบสวนตำรวจภูธรสุพรรณบุรี ระดมกำลังไล่ล่าคนร้าย ตรวจสอบเส้นทางการหลบหนี รถยนต์กระบะที่ใช้ก่อเหตุ และใบหน้าคนร้ายเบื้องต้นเชื่อว่าเป็นมืออาชีพ เนื่องจากลงมืออย่างใจเย็น และรู้จุดติดตั้งกล้องวงจรปิด แสดงว่าต้องมีการมาดูลาดเลาก่อนหลายครั้ง และมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์และสัญญาณไฟฟ้า ให้เป็นออฟไลน์ทั้งหมด จึงไม่ได้ยินเสียงสัญญาณเตือน คาดว่าผู้ก่อเหตุน่าจะมีความรู้ด้านนี้พอสมควร
ด้านนายฐปน สมบูรณ์ เจ้าหน้าที่บริษัทรักษาความปลอดภัยกรุงไทยธุรกิจบริการ กล่าวว่า เอทีเอ็มมีระบบการปลอดภัยหลายชั้น มีทั้งตัวตู้เซฟ และระบบสัญญาณโทรศัพท์ สัญญาณไฟฟ้า ที่เชื่อมต่อกันไปยังสำนักงานใหญ่ ส่วนตัวตู้เอทีเอ็มที่ถูกขโมยไป มีน้ำหนักมาก คาดประมาณไม่ต่ำกว่า 300 กิโลกรัม เชื่อว่าคนร้ายน่าจะมีการความรู้ด้านการตัดระบบสัญญาณระบบต่างๆ เป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย