กรุงเทพฯ 6 ก.ย.-ผบ.ทบ.ส่งทหารอยู่เป็นเพื่อนประชาชนช่วยดูแลทรัพย์สินในพื้นที่น้ำท่วม เดินหน้านโยบายพัฒนากำลังพลต้นน้ำ ย้ำทหารมุ่งมั่นทำงานสร้างความสงบสุขให้ประเทศ
พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก กล่าวถึงการประชุมผู้บังคับหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกในวันนี้ (6 ก.ย.) โดย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ขอบคุณกำลังพลที่ออกปฏิบัติภารกิจบรรเทาสาธารณภัย ทั้งการบรรเทาความเดือดร้อนจากภัยแล้งและอุทกภัยที่กำลังเกิดขึ้นขณะนี้ พร้อมกำชับให้ผู้บังคับหน่วยดูแลและสนับสนุนให้กำลังพลสามารถปฏิบัติภารกิจบรรเทาภัยได้อย่างเรียบร้อย ปลอดภัย มีการพักผ่อนที่เหมาะสม รวมถึงการผลัดเปลี่ยนกำลังพลและหน่วยทหารในพื้นที่บรรเทาภัย สำหรับในบางพื้นที่ที่ยังคง มีภาวะน้ำท่วมขัง ให้หน่วยทหารพิจารณาจัดกำลังพลเข้าพักแรมและอยู่เป็นเพื่อนประชาชน รวมทั้งให้การสนับสนุนเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเฝ้าระวังป้องกันทรัพย์สินของประชาชนในชุมชนที่มีน้ำท่วมขังและมีการอพยพออกไปด้วย ทั้งนี้ ในปัจจุบันกองทัพบกยังคงกำลังทหาร 2,400 นาย รถยนต์บรรทุก 105 คัน เรือท้องแบน 31 ลำ โรงครัวพระราชทาน 7 แห่ง ช่วยผู้ประสบวาตภัยและอุทกภัยจากอิทธิพลพายุโพดุลและคาจิกิใน 30 จังหวัด ในภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือ โดยเป็นการช่วยขนย้ายสิ่งของ อำนวยการจราจร บริการทางการแพทย์ แจกจ่ายสิ่งของ ประกอบอาหาร การจัดทำและเสริมความแข็งแรงของพนังกั้นน้ำ เป็นต้น และจะยังคงอยู่ช่วยเหลือดูแลประชาชนกับทุกภาคส่วน จนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ
รองโฆษกกองทัพบก กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ ผู้บัญชาการทหารบกยังได้กล่าวถึงความพร้อมของกองทัพบก ในการเป็นเจ้าภาพร่วมกับกองทัพบกสหรัฐอเมริกา ในการจัดประชุมผู้บัญชาการทหารบกกลุ่มประเทศภาคพื้นอินโด- แปซิฟิก ครั้งที่ 11 (IPACC) รวมถึงการจัดประชุม IPAMS และการจัดประชุม SELF ระหว่างวันที่ 9-11 กันยายนนี้ ซึ่งถือเป็นการประชุมที่สำคัญ ที่ทุกส่วนจะได้เห็นมุมมองในภาพกว้างและทันต่องานด้านความมั่นคงในระดับสากล นอกเหนือจากความสัมพันธ์และความร่วมมือที่กองทัพมิตรประเทศมีให้กันมาอย่างต่อเนื่อง
“การประชุมในวันนี้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ให้แนวทางในการปฏิบัติงานในปีงบประมาณต่อไป ซึ่งจะกำหนดให้เป็นปีแห่งการพัฒนากำลังพลในทุกระดับ ตั้งแต่ต้นน้ำไปถึงปลายน้ำ โดยเฉพาะการพัฒนากำลังพลต้นน้ำ อาทิ นักเรียนนายสิบ นักเรียนนายร้อย ทหารกองประจำการ อาสาสมัครทหารพราน เป็นต้น เพื่อให้มีความเข้มแข็งพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่และการดำรงเกียรติ โดยกองทัพบกจะปรับหลักสูตรการศึกษาของกำลังพลต้นน้ำ เน้นการศึกษาประวัติศาสตร์ และพัฒนาทักษะด้านภาษาอังกฤษเป็นสำคัญ โดยที่ผ่านมา ล่าสุด กองทัพบกได้มีการพัฒนาหลักสูตรการฝึกทหารใหม่ตามแนวทางพระราชทานเป็น พลทหารต้นแบบ ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดสาธิตพลทหารต้นแบบ ให้กับหน่วยฝึกทหารใหม่ของกองทัพบกทั่วประเทศได้นำไปปรับให้เป็นรูปแบบเดียวกัน นอกจากนี้ จะเดินหน้าพัฒนาการฝึกการสอนนักศึกษาวิชาทหารตามแนวทางที่ได้เริ่มดำเนินการมาแล้ว ทั้งเรื่องการปรับปรุงรูปแบบการฝึกระเบียบปฏิบัติ ส่งเสริมให้นักศึกษาวิชาทหาร มีจิตอาสาและความรับผิดชอบต่อสังคม เน้นการทำกิจกรรม หรือการศึกษาดูงานที่เป็นการเปิดมุมมองของผู้เรียน เป็นต้น” รองโฆษกกองทัพบก
รองโฆษกกองทัพบก กล่าวอีกว่า ผู้บัญชาการทหารบกยังได้กล่าวถึงการทำงานด้านความมั่นคง ซึ่งปัจจุบันภัยคุกคามมีความแปรผันไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะภัยคุกคามที่ไม่ใช่สงคราม เช่น ยาเสพติด สินค้าหนีภาษี การทำลายทรัพยากรป่าไม้ ซึ่งกองทัพบกจะต้องปรับและพัฒนาขีดความสามารถของหน่วยและกำลังพลให้ทันต่อความเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะการปฏิบัติตามนโยบายการปราบปรามยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ชายแดน ซึ่งผลการจับกุม ปรากฏเป็นที่ประจักษ์ กำชับให้กองทัพภาคได้ให้ความสำคัญและมุ่งขจัดปัญหาในลักษณะดังกล่าวต่อไป เพราะถือเป็นภัยคุกคามที่ทำให้ประเทศอ่อนแอ นอกจากนี้ ภายใต้ความเปลี่ยนแปลงของประเทศในมิติต่าง ๆ ขอให้ทุกหน่วยงานของกองทัพบกมุ่งมั่นร่วมกันทำงาน และให้ตระหนักอยู่เสมอว่ากองทัพจะต้องเป็นหลักในการสร้างความสงบสุขและสนับสนุนการเดินหน้าประเทศให้มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย