นิวยอร์ก 6 ก.ย.- เจ้าหน้าที่สาธารณรัฐสุขรัฐนิวยอร์กของสหรัฐกำลังมุ่งตรวจสอบวิตามินอีอะซิเตทที่มักใช้ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวว่า อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าในรัฐนี้ล้มป่วย 34 คน
เว็บไซต์เอ็นบีซีนิวส์ของสหรัฐรายงานว่า นับจนถึงบ่ายวันพฤหัสบดีตามเวลาสหรัฐ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วประเทศแจ้งยอดผู้ป่วยหรืออาจป่วยเพราะสูบบุหรี่ไฟฟ้าแล้วทั้งหมด 361 ราย ในจำนวนนี้สองรายเสียชีวิต สำนักงานสาธารณสุขรัฐนิวยอร์กแจ้งว่า ผลการตรวจตัวอย่างน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าผสมกัญชาพบวิตามินอีอะซิเตทในปริมาณสูงเกือบทุกตัวอย่าง แต่ไม่พบในผลิตภัณฑ์ยาสูบแม้แต่ตัวอย่างเดียว จึงขอแจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการสูบบุหรี่ไฟฟ้า หากมีอาการผิดปกติขอให้รีบพบแพทย์ทันที การสูดเอาไอน้ำจากสารที่ไม่ทราบชนิดเป็นเรื่องอันตราย ทางการจะเดินหน้าหาทางแก้ปัญหาสุขภาพนี้ต่อไป
ด้านสำนักงานอาหารและยาสหรัฐหรือเอฟดีเอ (FDA) ที่กำลังตรวจสอบตัวอย่างบุหรี่ไฟฟ้ากว่าร้อยตัวอย่างชี้ว่า สาเหตุที่ทำให้ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าล้มป่วยอาจเกิดจากสารปนเปื้อนอื่น ๆ เช่น นิโคติน เตตราไฮโดรแคนนาบินอลหรือทีเอชซี (THC) ที่เป็นสารสกัดจากกัญชาและสารในกลุ่มเดียวกัน ยาฆ่าแมลง และสารที่เป็นพิษอื่น ๆ เพราะผลการตรวจตัวอย่างไม่ได้พบสารชนิดเดียวในทุกตัวอย่าง ดังนั้นการระบุว่าพบสารตัวใดในตัวอย่างจึงเป็นเพียงตัวต่อชิ้นหนึ่งที่ยังไม่สามารถไขปัญหาได้ทั้งหมด
ผู้ป่วยโรคปอดหลายรายเป็นโรคปอดอักเสบเพราะสำลักน้ำมัน ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า โรคนี้เกิดได้จากสองสาเหตุ หนึ่งคือปอดบาดเจ็บทำให้ไขมันในร่างกายเข้าไปในปอด ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายต่อต้านเพราะถือว่าเป็นสารแปลกปลอม สองคือการสูดเอาน้ำมันเข้าไปในร่างกาย เช่น น้ำมันกัญชา ปิโตรเลียมเจลลี น้ำมันวิตามินอี
สหรัฐเริ่มมีบุหรี่ไฟฟ้าในปี 2549 ผลการศึกษาในอีกสิบปีถัดมาพบว่ามีผู้ใหญ่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเกือบ 11 ล้านคน ขณะที่กลุ่มเด็กมัธยมสูบบุหรี่แบบนี้เพิ่มขึ้นเกือบ 9 เท่าระหว่างปี 2554 ถึง 2558 และเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 78 ระหว่างปี 2560 ถึง 2561 ข้อมูลภายในปี 2561 พบว่าเด็กวัยต่ำกว่า 17 ปี สูบบุหรี่ไฟฟ้ามากถึง 3.6 ล้านคน.- สำนักข่าวไทย