ภูมิภาค 1 ก.ย.-พนังกั้นน้ำใน จ.ร้อยเอ็ด แตกเพิ่มเป็น 5 จุด ส่วนเขื่อนดิน อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ ถูกน้ำป่ากัดเซาะแตกเสียหาย ทำให้น้ำป่าจำนวนมากทะลักเข้าท่วม 2 หมู่บ้านใน อ.ทับคล้อ
จังหวัดร้อยเอ็ด เดิมเผชิญปัญหาน้ำท่วมอยู่ก่อนแล้วจากร่องมรสุมตั้งแต่วันที่ 24 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งลำน้ำยังที่รับน้ำมาจากจังหวัดกาฬสินธุ์ เอ่อล้นตลิ่ง ก่อนถูกอิทธิพลพายุโซนร้อนโพดุลซ้ำเติมเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม กระทั่งพนังกั้นน้ำยังในบริเวณนี้ขาด 2 จุด ในวันที่ 30 สิงหาคม และขาดเพิ่มอีก 3 จุด รวมเป็น 5 จุด เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ มวลน้ำไหลทะลักเข้าท่วมไร่นาและบ้านเรือนประชาชน จากเดิมได้รับผลกระทบใน 3 อำเภอ คือ เสลภูมิ โพธิ์ชัย และเมยวดี รวมทั้งในเขตเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด พื้นที่น้ำท่วมกว่า 53,000 ไร่ ขยายวงออกไปเป็นเกือบ 200,000 ไร่ ผู้ประสบภัยเกือบ 100 หมู่บ้าน โรงเรียน 40 แห่ง ศูนย์เด็กเล็กเกือบ 30 แห่ง วัดกว่า 50 แห่ง ถนนลาดยาง และถนนลูกรัง อย่างละ 16 สาย
เมื่อเวลา 11.30 น.ที่ผ่านมา นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม แจกสิ่งของช่วยเหลือ ปลอบขวัญผู้ประสบภัย จากนั้นจะไปตรวจเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อที่บ้านไค่นุ่น ตำบลนาแซง ก่อนที่จะประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ร้อยเอ็ด ขอนแก่น มหาสาคาม และกาฬสินธุ์
นอกจากนี้เขื่อนดินในอำเภอวังโป่ง จังหวัดเพชรบูรณ์ ถูกน้ำป่ากัดเซาะแตกเสียหาย ทำให้น้ำป่าจำนวนมากทะลักเข้าท่วม 2 หมู่บ้านในอำเภอทับคล้อ น้ำป่าที่ไหลเชี่ยวยังกัดเซาะถนนเข้าออกหมู่บ้านทรุดตัวเป็นช่วงๆ ในหลายจุด ทำให้ยานพาหนะขนาดเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ ส่งผลกระทบให้ประชาชนผู้ประสบภัยมีสภาพชีวิตเหมือนกับการติดเกาะ ทหารต้องใช้ยานพาหนะแบบยกสูงขับฝ่ากระแสน้ำป่าที่ไหลเชี่ยว นำหน่วยแพทย์ทหารเคลื่อนที่และนำสิ่งของ เครื่องอุปโภคบริโภค น้ำดื่มและเวชภัณฑ์ยารักษาโรคต่างๆ จำนวน 120 ชุด เข้าไปให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า นางอุบล พรมชัย อายุ 56 ปี ถูกกระแสน้ำป่าพัดสูญหายขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว บนถนนทางหลวงหมายเลข 113 สายทับคล้อ-เพชรบูรณ์ บริเวณหน้าที่ว่าการอำเภอทับคล้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยอยู่ระหว่างเร่งค้นหาร่างผู้สูญหาย
ที่นครศรีธรรมราช เขื่อนกั้นตลิ่งริมคลองชะอวดในเขตเทศบาลตำบลชะอวดทรุดตัว หลังน้ำในคลองแห้ง เนื่องจากการสูบน้ำไปดับไฟป่าพรุควนเคร็ง โดยเขื่อนกั้นตลิ่งที่บริเวณริมคลองชะอวด เขตเทศบาลตำบลชะอวด อำเภอชะอวด ทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว เป็นระยะทางยาวเกือบ 90 เมตร นายพกฤษ์ ปานจีน นายกเทศมนตรีตำบลชะอวด พร้อมชาวบ้าน ช่วยกันนำผู้ที่มีบ้านติดกับบริเวณดังกล่าวและเสี่ยงต่อบ้านทรุดพังลงในคลองชะอวด จำนวน 7 หลัง ออกมาอยู่ที่ปลอดภัย ก่อนจะนำแผงเหล็กมากั้นไม่ให้เข้าใกล้บริเวณที่เขื่อนกั้นตลิ่งทรุดตัว เนื่องจากอาจจะเป็นอันตรายได้.-สำนักข่าวไทย