กรุงเทพฯ 29 ส.ค.- ศาลฎีกาพิพากษาประหารชีวิต 2 พม่า ในคดีฆาตกรรมและข่มขืนนักท่องเที่ยวสัญชาติอังกฤษ ที่เกาะเต่า สุราษฎร์ธานี
เช้าวันนี้(29 ส.ค.)เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้เบิกตัวนายซอลิน และนายเวพิว สัญชาติพม่า จำเลยที่ 1 และ 2 ในคดีร่วมกันฆ่าผู้อื่นและร่วมกันโทรมหญิง ออกจากเรือนจำบางขวาง จังหวัดนนทบุรี มายังอาคารศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อฟังการอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอร์เรนท์
โดยคดีนี้ชั้นต้นศาลจังหวัดสมุย พิพากษาให้ลงโทษประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 ส่วนชั้นศาลอุทธรณ์ ภาค 8 พิพากษายืนให้ประหารชีวิตจำเลยเช่นเดียวกัน
ขณะที่ศาลฎีกา พิเคราะห์แล้วเห็นว่า คดีนี้มีพยานหลักฐาน รวมทั้งผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ การตรวจดีเอ็นเอ ตรงกับจำเลย และเป็นพฤติกรรมกระทำต่อนักท่องเที่ยวต่างชาติ ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ประเทศ มีการตั้งคณะพนักงานสอบสวนเฉพาะกิจโดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ควบคุมใกล้ชิด ในการตรวจเก็บสถานที่เกิดเหตุและพยานหลักฐานเพื่อจะติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ของประเทศคืนมา
มีการตรวจเก็บดีเอ็นเอทั้งคนไทยและต่างชาติที่อาจจะเกี่ยวข้องจำนวนมาก และมีการใส่ถุงมือป้องกันการปนเปื้อน ใช้น้ำยาตรวจที่มีคุณภาพ เครื่องตรวจอัตโนมัติมีมาตรฐานในการตรวจพิสูจน์ เพื่อให้เกิดความรอบคอบในการรวบรวมพยานหลักฐาน และพิจารณาดูประเด็นข้อสงสัยต่าง ๆ ทีละประเด็น โดยตัดผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปทีละคนทีละประเด็น ไม่ได้เฉพาะเจาะจงจำเลย ซึ่งครั้งแรกจำเลยก็เป็น 1 ในนั้นที่ต้องสงสัยแต่เมื่อยังไม่ชัดเจนจึงยังไม่ถูกดำเนินคดี กระทั่งตรวจดีเอ็นเอจากเยื่อบุกระพุ้งแก้มจำเลย ตรงกับการตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงไม่เชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะสร้างพยานหลักฐานเท็จเพื่อปรักปรำจำเลย เพราะในการสอบสวนต้องใช้เวลา , บุคคลากรจำนวนมาก รวมทั้งงบประมาณ หากจะสร้างพยานหลักฐานคงไม่ต้องให้สิ้นเปลืองทั้งบุคคลากรและงบประมาณ พยานหลักฐานโจทก์จึงรับฟังได้ปราศจากข้อสงสัย ข้อฎีกาของจำเลยทั้งสองจึงฟังไม่ขึ้นพิพากษายืนให้ประหารชีวิตจำเลยทั้ง 2 คน .-สำนักข่าวไทย