กรุงเทพฯ 19 ส.ค. – สศช.เผยจีดีพีไตรมาส 2/62 โตร้อยละ 2.3 ต่ำสุดในรอบ 19 ไตรมาส พร้อมลดจีดีพีปี 62 เหลือโตร้อยละ 3 เหตุสงครามการค้าฉุดส่งออกติดลบ
นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการ สํานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)เปิดเผยว่าตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ไตรมาส 2 ปี 2562 ขยายตัวร้อยละ 2.3 ซึ่งเป็นการเติบโตต่ำสุดในรอบ 19 ไตรมาส หรือในรอบเกือบ 5 ปี ต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2557 เติบโตชะลอลงจากไตรมาส 1 ปี 2562 ที่จีดีพีขยายตัวร้อยละ 2.8 ส่งผลให้จีดีพีครึ่งปีแรก 2562 ขยายตัวร้อยละ 2.6
สำหรับปัจจัยหลักที่กระทบทำให้จีดีพีไตรมาส2 ปีนี้เติบโตชะลอลง ซึ่งเชื่อว่าเป็นจุดต่ำสุดของปี มาจากการส่งออกติดลบร้อยละ 4.2 จากไตรมาสแรกที่ติดลบร้อยละ 4 เนื่องจากผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ -จีน ฉุดเศรษฐกิจโลกให้ชะลอตัวโตร้อยละ 3.2 นอกจากนี้ ยังมีผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง ราคาสินค้าเกษตรที่ยังมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ กระทบกำลังซื้อผู้บริโภคชะลอตัวลง รวมทั้งจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติชะลอลง และรายได้ท่องเที่ยวยังขยายตัวต่ำ
นายทศพร กล่าวว่า สศช.ปรับลดประมาณจีดีพีปี 2562 โตร้อยละ 3 หรือเติบโตในช่วงร้อยละ 2.7 – 3.2 จากเดิมที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.6 หรือเติบโตในช่วงร้อยละ 3.3 – 3.8 ส่วนเศรษฐกิจปี 2563 คาดขยายตัวร้อยละ 3.5 โดยเหตุผลที่ปรับลดจีดีพี มาจากการส่งออกที่ชะลอลงมาก คาดส่งออกปีนี้ติดลบร้อยละ 1.2 จากเดิมคาดโตร้อยละ 2.2 โดยมีความกังวลเรื่องภาวะความอ่อนแอของเศรษฐกิจยูโรโซนเพิ่มเติม ขณะที่การบริโภคโตร้อยละ 4.2 และการลงทุนโตร้อยละ 3.8
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังจะขยายตัวดีขึ้น เนื่องจากรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะเร่งด่วน ซึ่งจะกระตุ้นให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย และการบริโภค ขณะเดียวกันรัฐบาลต้องเร่งการส่งออกให้มูลค่าการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังกลับมาขยายตัวไม่ต่ำกว่าร้อยละ 3 สนับสนุนการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว จำนวนนักท่องเที่ยวครึ่งปีหลังไม่ต่ำกว่า 20 ล้านคน เร่งการเบิกจ่าย การลงทุนภาครัฐ และการลงทุนภาคเอกชน ดูแลเกษตรกรแรงงานผู้มีรายได้น้อย เอสเอ็มอี และรักษาความสงบเรียบร้อยและบรรยากาศการเมืองในประเทศ เพื่อทำให้เศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังขยายตัวได้ร้อยละ 3.4 จึงจะทำให้เศรษฐกิจไทยปี 2562 โตร้อยละ 3 ตามเป้าหมาย
“เศรษฐกิจไทยแค่เซ ยังไม่ถึงกับทรุด แต่เราต้องทำอะไรบ้าง ต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะปัจจัยเสี่ยงมีทั้งเศรษฐกิจโลกที่ขยายตัวต่ำกว่าคาด และความผันผวนเศรษฐกิจและการเงินโลก รวมทั้งความเสี่ยงจากสถานการณ์ภัยแล้ง” นายทศพร กล่าว.- สำนักข่าวไทย