อุดรธานี 12 ส.ค.- ธนารักษ์เดินหน้าเชิงสังคมลุยแจกที่ราชพัสดุ “ธนารักษ์ประชารัฐ” เปิดให้ประชาชนทำกิน อยู่อาศัย
เล็งเว้นค่าเช่าที่ราชพัสดุให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ ลดภาระค่าครองชีพ แก้ปัญหาบุกรุกที่ราชพัสดุภายใน 5 ปี 1.45
แสนไร่
นายอำนวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ด้วยการแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ราชพัสดุ
จึงเร่งจัดทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุให้ถูกต้องจากจำนวนผู้บุกรุก 2.4 แสนราย พื้นที่
1.6 ล้านไร่ ในปี 2562 กำหนดเป้าหมาย
สำรวจรังวัดให้กับผู้ประสงค์ขอเช่าเพื่อใช้ประโยชน์ 9 หมื่นราย ส่วนที่เหลือ อีก 1.39 แสนราย
มีแผนจัดสรรรังวัดมอบหนังสือเช่าทำการเกษตรและที่อยู่อาศัยภายใน 5 ปี
หรือจัดทำให้ได้ 5 – 6 พันรายต่อปี
ขณะนี้กำลังศึกษามาตรการส่งเสริมการเช่าที่ราชพัสดุภายใน 3
เดือนข้างหน้า
นางสาวอมรรัตน์ กล่ำพลบ
ที่ปรึกษาด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ กรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า
ขณะนี้มีกลุ่มชาวบ้านยินยอมให้พิสูจน์สิทธิ์การใช้ประโยชน์
เพื่อออกหนังสือเช่าที่ราชพัสดุจากกรมธนารักษ์
จำนวน 86,084 ราย พื้นที่ 1.051 ล้านไร่ เพื่อให้ทันการออกรังวัด ผู้ต้องการเสนอให้ออกหนังสือเช่า
5-6 หมื่นราย
จำเป็นต้องจัดจ้างบริษัทเอกชนภายนอกมาช่วยรังวัดที่ดินให้ทันตามเป้าหมายกำหนดทั่วประเทศ โดยในปี 2562
จัดให้ประชาชนเช่าที่ราชพัสดุเพื่ออยู่อาศัยไปแล้ว 200 ราย พื้นที่ 46 ไร่
ด้านเกษตรกรรม จำนวน 334 ราย พื้นที่ 939 ไร่ จัดเก็บค่าเช่าเพื่ออยู่ศัยตารางวาละ
0.25 บาทต่อปี ด้านเกษตรราคา 200 บาทต่อไร่ หากครอบครอง 5 ไร่จ่ายค่าเช่ารายปี
1,000 บาทต่อปี โดยในวันที่ 9 สิงหาคม
กรมธนารักษ์แจกสัญญาเช่าในอำเภอศรีธาตุ 230 ราย คงเหลืออีก 545 รายต้องทำการจัดทำสัญญาเพิ่มเติมจากพื้นที่
จ.อุดรธานี 3 อำเภอ คือ อ.ศรีธาตุ วังสามหมอ กุมภวาปี รวม 85,000 ไร่
นอกจากนี้ กรมธนารักษ์เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
ตามนโยบายรัฐบาลให้กระทรวงการคลังพิจารณา ในกลุ่มผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ซึ่งค้างชำระค่าเช่าที่ราชพัสดุ จำนวน 2,457 ราย จากจำนวนผู้ถือบัตรคนจนที่ทำสัญญาเช่าที่ราชพัสดุกับกรม
26,951 ราย จาก
ยอดรวมของผู้เช่าที่ราชพัสดุทั่วประเทศทั้งหมด 130,000 ราย
แต่ต้องมีมาตรการดูแลผู้จ่ายค่าเช่าที่ชำระเงินรายปีตามปกติ การเสนอมาตรการ การยกเว้นค่าเช่า และยกเว้นค่าเช่าคงค้าง
ให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ
ขณะนี้กำลังหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในสิ้นปี 2562.-สำนักข่าวไทย