ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด กนง.คงดอกเบี้ยร้อยละ 1.75

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด กนง.คงดอกเบี้ยร้อยละ 1.75 ให้น้ำหนักเสถียรภาพระบบการเงิน  


บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด คาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 7 สิงหาคมนี้ จะมีมติคงดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 1.75%  โดยมองว่ายังคงให้น้ำหนักกับปัจจัยความเสี่ยงเชิงเสถียรภาพในระบบการเงิน ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่แม้จะมีแรงส่งชะลอลง แต่ยังคาดหวังผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครึ่งปีหลังที่จะประคองภาพรวมเศรษฐกิจไทยให้ปรับดีขึ้นจากครึ่งแรกของปี 

สำหรับปัจจัยเสี่ยงต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้าคงมีน้ำหนักมากขึ้นในการตัดสินใจนโยบายการเงินในระยะข้างหน้า ทั้งนี้ ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา แรงฉุดต่อการเติบโตของเศรษฐกิจไทยปรากฏชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะภาคต่างประเทศเป็นผลจากข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยล่าสุดสหรัฐประกาศเพิ่มการเก็บภาษีสินค้าจีนร้อยละ 10 กับสินค้ากลุ่มที่เหลือ 300,000 ล้านดอลลาร์ฯ ซึ่งจะมีผลวันที่ 1 กันยายน 2562 นอกจากนี้ ประเด็น Brexit อาจจะมีผลต่อความผันผวนของการเคลื่อนย้ายเงินทุน อย่างไรก็ตาม กนง.คงรอติดตามผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลใหม่ 


นอกจากนี้ ภาพรวมของตลาดการเงินที่ผ่อนคลาย ซึ่งอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะกลาง-ยาวปรับลดลง 0.3-0.9% จากช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลอดจนแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินบาทที่ลดลงจากมาตรการดูแลค่าเงินบาทของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และการส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต่อการปรับนโยบายการเงินของเฟดในการประชุมรอบกรกฎาคม 2562 ว่าเป็นการปรับอัตราดอกเบี้ยกลางวัฎจักร ไม่ใช่การส่งสัญญาณถึงวัฎจักรอัตราดอกเบี้ยขาลงอาจจะช่วงลดแรงกดดันต่อปัจจัยการแข็งค่าของเงินบาท น่าจะเป็นปัจจัยที่เอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย 

ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่า กนง.คงจะประเมินทิศทางเศรษฐกิจระยะข้างหน้า โดยคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงและปัจจัยหนุนอย่างรอบคอบ หากทิศทางเศรษฐกิจไทยครึ่งปีหลังมีแนวโน้มชะลอลงจากครึ่งแรกคงจะเปิดโอกาสให้ กนง.มีการทบทวนความเหมาะสมของการดำเนินนโยบายการเงินในระยะต่อไป

ขณะที่ประเด็นเสถียรภาพระยะยาว ยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ กนง.ให้น้ำหนักในช่วงนี้ ทั้งนี้ กนง.คงจะเผชิญกับโจทย์ที่ท้าทายมากขึ้นในการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินภายใต้ปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน โดยเฉพาะปัจจัยเสี่ยงเชิงเสถียรภาพการเงินจากการเร่งตัวขึ้นของหนี้ภาคครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องที่อาจเป็นปัจจัยกดดันศักยภาพของการเติบโตของเศรษฐกิจไทยระยะยาว โดย ธปท.ประกาศใช้มาตรการดูแลความเสี่ยงเฉพาะทาง อาทิ การกำหนดเพดานอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อมูลค่าหลักประกัน ตลอดจนมาตรฐานดูแลคุณภาพสินเชื่อ อาทิ การจำกัดอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ คาดว่าจะประกาศใช้สิ้นปีนี้ ต้องอาศัยระยะเวลากว่าจะสามารถสร้างผลสัมฤทธิ์ในการปรับลดปัจจัยเสี่ยงเชิงเสถียรภาพ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชน 3 แม่ลูกเสียชีวิต เข้ามอบตัว

สาวขับรถหรู ชน 3 แม่ลูกเสียชีวิตที่ชุมพร เข้ามอบตัวกับตำรวจแล้ว อ้างยืมรถเพื่อนมาขับ ศาลให้ประกันตัววงเงิน 1 แสนบาท

สงขลาประกาศเขตภัยพิบัติแล้วทุกอำเภอ เร่งช่วยน้ำท่วมวิกฤติ

ผู้ว่าฯ สงขลา ลงนามประกาศให้ทั้ง 16 อำเภอ เป็นเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินอุทกภัยและวาตภัย เพื่อเร่งรัดให้ความช่วยเหลือประชาชน บรรเทาความเดือดร้อน โดย อ.จะนะ เทพา นาทวี และสะบ้าย้อย ยังมีระดับน้ำท่วมเพิ่มสูงขึ้น

ข่าวแนะนำ

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท

เตรียมรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2-กู้ร่างผู้สูญหาย

ช่วงบ่ายนี้ (29 พ.ย.) จนท.กรมทางหลวง สภาวิศวกรรมสถาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมนำรถเครนรื้อถอนเหล็กถักที่ถล่มบน ถ.พระราม 2 โดย ปภ.สมุทรสาคร ไม่มั่นใจว่าการดำเนินการจะจบภายในวันเสาร์-อาทิตย์นี้หรือไม่

คานถล่มพระราม2

ตร.ทางหลวง แนะเลี่ยงถนนพระราม 2 หลังการจราจรเข้าขั้นวิกฤต

ตำรวจทางหลวง เผยการจราจรถนนพระราม 2 เข้าขั้นวิกฤต แนะเส้นทางเลี่ยงทั้งขาเข้าและขาออกกรุงเทพมหานคร ยังไม่ชัดเปิดการจราจรได้ตามปกติเมื่อใด

คานถล่มพระราม2

“สุริยะ” สั่งผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง ถ.พระราม 2 ตัดสิทธิรับงาน 2 ปี

“สุริยะ” รมว.คมนาคม เผยเย็นวันนี้เตรียมกลับไปตรวจสอบสาเหตุคานเหล็กก่อสร้างบนถนนพระราม 2 ถล่ม สั่งการผู้รับเหมาหยุดก่อสร้าง รวมทั้งตัดสิทธิรับงาน 2 ปี และขอให้เพิ่มความเข้มงวดมาตรการลดชั้นผู้รับเหมา เพื่อลดจำนวนอุบัติเหตุ