กรุงเทพ 3 ส.ค.- นักวิชาการด้านสันติวิธี เชื่อมั่นการทำงานตำรวจหลังเกิดเหตุระเบิด ชี้เร็วเกินไปที่จะสรุปตัวคนร้าย วอนทุกฝ่ายอย่าใช้สถานการณ์โจมตีกันทางการเมือง แนะรัฐบาลเร่งตรวจสอบความจริงแล้วแจ้งประชาชนให้ทราบความคืบหน้า
พล.อ.เอกชัย ศรีวิลาศ ผู้อำนวยการสำนักสันติวิธีและธรรมาภิบาล สถาบันพระปกเกล้า เปิดเผยกับสำนักข่าวไทยถึงเหตุระเบิดทั่วกรุงที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (2 ส.ค.) ว่า ขณะนี้ยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินว่าสาเหตุเกิดขึ้นจากอะไรและจากกลุ่มบุคคลใด หรือเชื่อมโยงกับใคร เพราะการตัดสินใจอะไรเร็วๆ จะเกิดความผิดพลาด และไม่ได้ตัวผู้กระทำผิดจริงๆเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา สิ่งที่สำคัญคือ การตรวจสอบหาหลักฐานและได้ตัวผู้กระทำจริงๆ แล้วสอบสวนผู้กระทำผิดว่า ทำเพราะอะไร ซึ่งการที่บอกกันว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นเชื่อมโยงกับกลุ่มที่มาจากภาคใต้นั้น ส่วนตัวมองว่า เร็วเกินไปที่จะสรุปเช่นนั้นหากรู้ขนาดนั้นแสดงว่าการข่าวล้มเหลวทั้งหมดเพราะเหตุที่เกิดขึ้นนั้นหลายจุด ดังนั้นจึงเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุปการเชื่อมโยงเหตุระเบิด ไม่เช่นนั้นจะกระทบต่อการบริหารประเทศ เศรษฐกิจที่ขณะนี้ยังย่ำแย่ รวมทั้งความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย เรื่องนี้จึงควรจะต้องรีบตรวจสอบหาข้อเท็จจริงให้ได้ว่าเกิดจากเหตุผลอะไร
พล.อ.เอกชัย ยังมองว่างานการข่าวและการระมัดระวังสถานการณ์ยังอ่อนด้อยเกินไป ตั้งแต่เหตุระเบิดที่บริเวณศาลพระพรหม แยกราชประสงค์ ที่ท้ายที่สุดเป็นเรื่องของต่างชาติ ดังนั้น จึงตัดสินอะไรง่ายๆไม่ได้ ไม่เช่นนั้นจะมีแต่ความเสียหาย เช่น การเชื่อมโยงเหตุระเบิดครั้งนี้ไปที่คนใต้ ก็ทำให้คนใต้เกิดความเสียหาย และจะทำให้คนใต้ไม่พอใจด้วย ไม่ว่าฝ่ายใดจึงอย่าเพิ่งด่วนสรุปสาเหตุ และคนไทยก็ชอบโหมกระแสเป็นพักๆแล้วเงียบหายไป จึงฝากให้ทุกคนคำนึงถึงการให้สัมภาษณ์เพื่อไม่ให้เกิดผลเสียหาย
“เชื่อว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้น คงไม่ส่งผลกระต่อเสถียรภาพของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มากนัก แต่หลายฝ่ายก็มักนำเรื่องนี้มาโยงเป็นเรื่องการเมือง ดังนั้นจึงอย่าโทษฝ่ายใด ฝ่ายตรงข้ามกับรัฐก็อย่านำเรื่องประเทศชาติมาทำให้บ้านเมืองเสียหาย เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรใดๆ อย่านำสถานการณ์นี้มาใช้ในการโจมตีทางการเมือง ส่วนตัวเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการตรวจสอบเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นเพื่อจับตัวผู้กระทำความผิดโดยเร็ววัน แต่การทำงานแบบคนไทย เวลาเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ไม่ค่อยประกาศความคืบหน้าให้ประชาชนรู้ เรื่องก็จะเงียบหายไปเหมือนหลายครั้งที่ผ่านมา ซึ่งไม่ค่อยดีเท่าใดนัก จนกลายเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้กลุ่มการเมืองมาใช้ในการโจมตีระหว่างกัน ดังนั้น รัฐบาลต้องดำเนินการหาความจริงอย่างตรงไปตรงมาแล้วแจ้งผลความคืบหน้าให้ประชาชนทราบ แต่หากยังไม่แน่ใจก็อย่าเพิ่งปรักปรำใคร.-สำนักข่าวไทย