กรุงเทพฯ 30 ก.ค. – หุ้นไทยร่วงกว่า 11 จุด สวนทางภูมิภาค ผิดหวังผลประกอบการกลุ่มปิโตรเคมี-โรงกลั่น จับตาผลประชุมเฟด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดวันนี้ (30 ก.ค.) ที่ระดับ 1,706.49 จุด ลดลง 11.48 จุด หรือ 0.67% มูลค่าการซื้อขาย 55,570.64 ล้านบาท โดยดัชนีเคลื่อนไหวแดนลบเป็นส่วนใหญ่ ทำระดับสูงสุด 1,722.20 จุด และต่ำสุด 1,704.03 จุด
นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับฐานสวนทางตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะรีบาวด์เฉลี่ย 0.4% หลังจากเอเชียปรับฐานไปแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการขายหุ้นไทยบางส่วน นำโดยหุ้น SCC หลังจากผลประกอบการไตรมาส 2/2562 ออกมาไม่ดี ทำให้มีการปรับลดประมาณการและไปกดดันหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี และกลุ่มโรงกลั่นที่คาดการณ์กันว่างบฯ จะออกมาไม่ดีด้วย
อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามผลการประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะมีการประชุมวันที่ 30-31 กรกฎาคมนี้ หากปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ตลาดฯ อาจฟื้นตัวทดสอบ 1,743 จุด ลดดอกเบี้ย 0.5% ก็เป็นการสร้าง Surprise ให้ตลาดฯ ที่มีโอกาสขึ้นไปทดสอบ 1,750-1,767 จุด และไม่ปรับก็เป็น Negative Surprise ดัชนีฯ อาจลงมาทดสอบ 1,680-1,700 จุด อีกทั้งยังต้องติดตามประเด็นหยุดการลดงบดุลของสหรัฐด้วย
ด้านประเภทนักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,858.03 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 487.27 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 509.07 ล้านบาท และนักลงทุนในประเทศซื้อสุทธิ 2,836.22 ล้านบาท .-สำนักข่าวไทย
