สนง.ผู้ตรวจการแผ่นดิน 1 ก.ค.- พลังธรรมใหม่ร้องผู้ตรวจการแผ่นดินสั่ง ครม.เบรคสัมปทานทางด่วน ควรให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาก่อน และให้รัฐบาลใหม่พิจารณาอนุมัติ
นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ โฆษกพรรคพลังธรรมใหม่ เป็นตัวแทน นพ.ระวี มาศฉมาดล หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ เข้ายื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายปิยะ ลือเดชกุล ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบเรื่องร้องเรียน สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ดำเนินการตรวจสอบมติของคณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (บอร์ด กทพ.) ในการอนุมัติต่อสัญญาสัมปทานให้กับบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ออกไปอีก 30 ปี
นายจาตุรันต์ กล่าวว่า จากกรณีที่ บอร์ด กทพ. มีมติขยายอายุสัญญาสัมปทานให้กับบริษัท BEM 3 โครงการ คือ โครงการทางด่วนขั้นที่ 1 (ทางด่วนพิเศษเฉลิมมหานคร) ทางด่วนขั้นที่ 2 (ทางด่วนศรีรัช) และทางด่วนสายบางปะอิน-ปากเกร็ด โดยมีการขยายสัมปทานออกไป 30 ปี และจากข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุดที่แจ้งให้ กทพ. ทราบ ทำให้พรรคพลังธรรมใหม่เห็นว่า การพิจารณาต่ออายุสัมปทาน ซึ่งมีมูลค่า 8.5 แสนล้านบาท อาจจะเกิดความไม่โปร่งใส
นายจาตุรันต์ กล่าวว่า เพื่อไม่ให้รัฐต้องเสียผลประโยชน์ ซึ่งควรเป็นรายได้ของแผ่นดิน จึงได้ยื่นญัตติด่วน เพื่อให้สภาฯ ตั้งคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาศึกษา กรณีการต่อสัญญาสัมปทานให้กับบริษัททางด่วน และรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด มหาชน ในวันที่ 4 กรกฎาคมนี้ เพื่อพิจารณาศึกษาถึงผลดีผลเสียของการอนุมัติให้ต่อสัญญา
“แต่ขณะนี้ทราบว่า กทพ.ได้ส่งเรื่องไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อนำเสนอต่อ ครม.ให้พิจารณาในการประชุม ครม. ในวันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) จึงขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินแจ้งเรื่องไปที่กระทรวงคมนาคม และ ครม.เพื่อชะลอการพิจารณาอนุมัติการต่อสัญญาสัมปทานดังกล่าว ในการประชุม ครม.วันพรุ่งนี้ (2 ก.ค.) ไว้ก่อน เพื่อรอให้สภาฯ พิจารณาญัตติด่วนในการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญขึ้นเพื่อพิจารณาศึกษาก่อน” นายจาตุรันต์ กล่าว
นอกจากนี้ นายจาตุรันต์ กล่าวว่า รัฐบาลปัจจุบันกำลังจะสิ้นสุดการปฏิบัติหน้าที่ และจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เร็วๆ นี้ ดังนั้น ควรรอให้รัฐบาลชุดใหม่ทำหน้าที่พิจารณาอนุมัติการต่อสัญญาสัมปทานแทนรัฐบาลชุดเดิม เพื่อให้เกิดความโปร่งใส เป็นธรรม โดยควรให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาพิจารณาให้เกิดความรอบคอบก่อนต่อสัญญา . – สำนักข่าวไทย