พอร์ตมอร์สบี 17 ส.ค.- นายกรัฐมนตรีปีเตอร์ โอนีลของปาปัวนิวกินีเผยว่า ออสเตรเลียตกลงจะปิดศูนย์ผู้ลี้ภัยบนเกาะมานุสของปาปัวนิวกินีที่เป็นประเด็นถกเถียงแล้ว
นายกรัฐมนตรีปีเตอร์แถลงว่า ได้พบกับนายปีเตอร์ ดัทตัน รัฐมนตรีคนเข้าเมืองออสเตรเลียที่กรุงพอร์ตมอร์สบีในวันนี้ และเห็นพ้องกันเรื่องปิดศูนย์ผู้ลี้ภัยบนเกาะมานุส หลังจากศาลฎีกาปาปัวนิวกินีมีคำตัดสินเมื่อเดือนเมษายนว่า การกักกันผู้ลี้ภัยและผู้อพยพที่ศูนย์ดังกล่าวเป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี การปิดศูนย์ที่มีคนอยู่ 854 คน จะไม่ทำโดยทันที เพราะต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ คำนึงถึงประโยชน์ของชาวปาปัวนิวกินีและสวัสดิภาพของผู้ขอลี้ภัยและผู้ลี้ภัย ด้านนายดัทตันแถลงว่า รัฐบาลออสเตรเลียมีจุดยืนมานานแล้วเรื่องประสานงานกับรัฐบาลปาปัวนิวกินีในการปิดศูนย์บนเกาะมานุสและหาหลักแหล่งให้แก่ผู้ลี้ภัยซึ่งจะไม่ใช่ออสเตรเลีย
ออสเตรเลียมีนโยบายสกัดเรือผู้ขอลี้ภัยที่ล่องมายังออสเตรเลียแล้วส่งไปยังศูนย์กักกันบนเกาะมานุสของปาปัวนิวกินีและเกาะนาอูรูในมหาสมุทรแปซิฟิก โดยไม่อนุญาตให้ตั้งหลักแหล่งในออสเตรเลียถึงแม้ผ่านการตรวจพิสูจน์แล้วว่าเป็นผู้ลี้ภัยที่แท้จริงก็ตาม ศูนย์บนเกาะมานุสเปิดครั้งแรกในปี 2544 สมัยรัฐบาลนายกรัฐมนตรีจอห์น ฮาวาร์ด และถูกปิดอย่างเป็นทางการในปี 2551 ก่อนเปิดอีกครั้งในปี 2555 เนื่องจากปัญหาผู้ขอลี้ภัยทะลักเข้าประเทศกลายเป็นประเด็นทางการเมืองของรัฐบาลพรรคแรงงาน ออสเตรเลียตกลงให้ความช่วยเหลือแก่ปาปัวนิวกินีจำนวน 400 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (ราว 10,625 ล้านบาท) แลกกับการรับผู้ขอลี้ภัย ต่อมาเกิดเหตุจลาจลเมื่อต้นปี 2557 เมื่อชาวบ้านบุกเข้าไปในศูนย์ ตามด้วยเหตุผู้ขอลี้ภัยขังตัวเองและอดอาหารประท้วงเมื่อต้นปีก่อน สหประชาชาติและกลุ่มสิทธิวิจารณ์สภาพความเป็นอยู่ภายในศูนย์ว่าเลวร้ายและตำหนิออสเตรเลียว่าผลักภาระให้ผู้ลี้ภัยและผู้อพยพ.-สำนักข่าวไทย