ประชาธิปัตย์ 4 มิ.ย.- แกนนำปชป.เผย จบดีล พปชร. ลุ้นลงมติร่วม-ไม่ร่วม บ่ายนี้ ขณะที่ ผู้ชนะประกวดคำขวัญ 50 ปี ปชป. บุกพรรค ค้านหนุน “พล.อ.ประยุทธ์”
นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ไปร่วมแถลงร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐ เพราะ พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการแล้ว แต่อีก 5 พรรคการเมืองยังไม่ได้รับเชิญ จึงมีงานดังกล่าวขึ้น เพื่อไม่ให้เกิดความน้อยใจ อย่างไรก็ตาม ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ขอให้รอมติที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค ที่จะประชุมวันนี้ (4 มิ.ย.) เวลา 13.00น. และประชุม ส.ส. 13.30น. จากนั้น จึงจะเป็นการประชุมร่วมกรรมการบริหารพรรคและ ส.ส. ซึ่งคาดว่าจะมีมติในวันนี้ เพราะแกนนำพรรคมีข้อมูลครบถ้วนที่จะรายงานต่อที่ประชุมแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่พรรคประชาธิปัตย์ในช่วงสายวันนี้ นายวรา จันทร์มณี อดีตนักศึกษารามคำแหง ที่ชนะการประกวดคำขวัญ 50 ปี พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อปี 2538 ด้วยคำขวัญที่ว่า “50 ปี ประชาธิปัตย์ พัฒนาประชาธิปไตย รับใช้ประชาชน” มายื่นหนังสือถึงกรรมการบริหารพรรค เรียกร้องให้พรรครักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน ว่าจะไม่สนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เพื่อสืบทอดอำนาจ คสช. และเพื่อให้กำลังใจนักการเมืองน้ำดีในพรรค เช่น กลุ่มนิวเด็ม ที่มีอุดมการณ์ยึดโยงอยู่กับประชาชนและระบอบประชาธิปไตย ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ตัดสินใจเข้าร่วมรัฐบาล ก็จะเดินทางกลับมาที่พรรคอีกครั้ง เพื่อนำโล่และเงินรางวัล 5,000 บาท จากการประกวดคำขวัญดังกล่าวมามอบคืนให้ เพราะคำขวัญดังกล่าวคงไม่จำเป็นสำหรับพรรคประชาธิปัตย์อีกต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขั้นตอนการประชุมวันนี้จะมีการประชุมกรรมการบริหารพรรคก่อนในช่วง 13 นาฬิกา จากนั้น จะเป็นการประชุมร่วมกับ ส.ส. เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจว่าจะร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล โดยจะให้นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค แจ้งความคืบหน้าหลังเจรจา โดยมีรายงานว่าการเจรจาล่าสุด ผู้ใหญ่ที่ประสานกับพรรคยืนยันข้อตกลงเดิมคือ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ไม่มีการเรียกกระทรวงพาณิชย์คืนตามที่เป็นข่าว แต่สิ่งที่ยังไม่มีการยืนยันคือ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งคาดว่าจะกลายเป็นประเด็นที่มีการตั้งคำถามกันมากในที่ประชุม และหากเป็นไปตามข้อตกลงเดิม ก็มีแนวโน้มสูงว่าที่ประชุมจะมีมติร่วมรัฐบาล และโหวตสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี
อย่างไรก็ตาม ยังมีความเห็นต่างในพรรคที่คิดว่า การร่วมรัฐบาลที่เสียงปริ่มน้ำ จะไม่มีเสถียรภาพ และเห็นว่า พรรคควรเป็นฝ่ายค้านอิสระมากกว่า เพราะถ้าเป็นรัฐบาลพรรคจะขาดอิสระในการเคลื่อนไหว เนื่องจากต้องอยู่ในกรอบความเป็นรัฐบาล ดังนั้น การเป็นฝ่ายค้าน นอกจากจะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนช่วงหาเสียง รวมถึง อุดมการณ์พรรคได้แล้ว จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติมากกว่าการเป็นรัฐบาลด้วย เพราะสามารถดูแลผลประโยชน์ชาติผ่านการทำหน้าที่ในสภาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ก็ไม่ได้ขัดขวางหรือเป็นอุปสรรคต่อรัฐบาลที่ทำหน้าที่อย่างสุจริต ส่วนฝ่ายที่เห็นควรให้ร่วมรัฐบาลอ้างเหตุผลว่า ถ้ามีการบิดพลิ้วข้อตกลง ทั้งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือมีการทุจริต พรรคก็สามารถถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลได้ในภายหลัง ..- สำนักข่าวไทย