ทำเนียบฯ 15 พ.ค. – คนร.เคาะอนุมัติเดินหน้าตามแผนฟื้นฟูกิจการ ขสมก. และ รฟท. โดยในส่วน ขสมก. คนร.รับทราบแนวทางการล้างหนี้ผลประกอบการ 128,000 ล้านบาท แบบมีเงื่อนไข กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี EBITDA ต้องเป็นบวกปี 2566 และปรับค่าโดยสารอีกรอบปี 2563
นางปานทิพย์ ศรีพิมล ที่ปรึกษาด้านพัฒนารัฐวิสาหกิจ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ได้เห็นชอบการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการที่รัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงคมนาคมเสนอ โดยในส่วนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วันนี้ได้รายงานผลการดำเนินงาน ภายหลังมีการปรับราคาค่าโดยสารเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเดินรถบริการ
ทั้งนี้ ในส่วนของแผนฟื้นฟูประเด็นอื่น เช่น การล้างภาระหนี้และผลขาดทุนสะสม 128,000 ล้านบาท นั้น คนร.ขอให้ ขสมก.ปรับปรุงการดำเนินงานให้ผลประกอบการดีขึ้น ซึ่งก็เป็นไปตามแผนที่ยืนยันว่าจะดำเนินการให้ผลประกอบการกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี EBITDA กลับมาเป็นบวกปี 2566 หากสามารถดำเนินการได้ คนร.จะดำเนินการล้างหนี้ทั้งหมดให้ ซึ่งประเด็นนี้ ขสมก.รายงานที่ประชุมทราบว่านอกจากปรับขึ้นค่าโดยสารเดือนเมษายนที่ผ่านมาแล้ว การจะให้ผลประกอบการดีขึ้น ขสมก.เตรียมช่วงเวลาที่เหมาะสมปรับราคาค่าโดยสารอีกครั้งปี 2563 โดยจะดูรายละเอียดต้นทุนและราคาที่จะปรับขึ้นอีกครั้ง
นอกจากนี้ คนร.ยังขอให้ ขสมก.ไปดำเนินการ รายละเอียดบางประเด็นให้ชัดเจน เช่น แผนการดูแลพนักงานที่จะเข้าโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด (เออร์ลี่ รีไทร์ ) โดยต้องมีรายละเอียดครบถ้วนก่อนนำเสนอขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในอนาคต ส่วนการจัดหารถใหม่ที่ขณะนี้ ขสมก.มีแผนจัดหารถใหม่ให้ครบ 2,188 คัน หลังจากที่ก่อนหน้านี้จัดซื้อ รถเมล์เอ็นจีวี 489 คันไปแล้ว ส่วนที่เหลือจะดำเนินการตามแผนที่วางไว้ทั้งการจัดเช่ารถเมล์ 700 คัน และรถเมล์ไฟฟ้าเพิ่มเติม
ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ที่ประชุม คนร.ได้เห็นชอบการจัดตั้งบริษัทลูก เพื่อบริหารทรัพย์สิน และการเพิ่มภารกิจให้แก่บริษัท รถไฟฟ้า รฟท. จำกัด ผู้ให้บริการเดินรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรล ลิ้งค์ให้มีภารกิจเดินรถไฟฟ้าสายสีแดงเส้นทางตลิ่งชัน-บางซื่อ และบางซื่อ-รังสิต ซึ่งโครงการจะเปิดให้บริการต้นปี 2564 รวมถึงการอนุมัติเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ 1,904 คน เพื่อรองรับการเปิดใช้บริการ ทั้งรถไฟฟ้าสายสีแดงและสถานีกลางบางซื่อในช่วงเวลาดังกล่าว.-สำนักข่าวไทย