กรุงเทพฯ 23 เม.ย. – บิ๊กซีผนึกกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่ง พัฒนาด้านการศึกษา สร้างบุคลากรมีคุณภาพเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อร่วมพัฒนาและส่งเสริมด้านการศึกษาให้กับนักศึกษาระดับมหาวิทยาลัยในการสร้างบุคลากรที่ดีและมีคุณภาพสู่สังคมในอนาคต ทางบิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการศึกษากลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏ 38 แห่ง ครอบคลุม 6 กลุ่มทั่วภูมิภาคของประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความร่วมมือดังกล่าวเปิดโอกาสให้นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏทั้ง 38 แห่งได้ฝึกวิชาชีพในการทำงานในธุรกิจค้าปลีก โดยทางบิ๊กซีส่งผู้ทรงคุณวุฒิร่วมร่างหลักสูตรการจัดการค้าปลีก พร้อมทั้งนำวิทยากรมาบรรยายให้ความรู้แก่นักศึกษาและจัดรถมินิบิ๊กซี หรือรถมินิทรัค ร้านค้าจำลองให้นักศึกษาได้ฝึกการทำงานจริงภายในมหาวิทยาลัย รวมทั้งเปิดโอกาสให้เข้ามาฝึกงานกับห้างค้าปลีกในกลุ่มบีเจซี เพื่อสัมผัสประสบการณ์การทำงานจริงนอกเหนือจากในห้องเรียน และพัฒนาทักษะต่าง ๆ อีกทั้งยังเปิดโอกาสรับบุคลากรรุ่นใหม่เข้ามาทำงานเมื่อสำเร็จการศึกษา รวมถึงกรอบความร่วมมืออีกหลายด้าน อาทิ การร่วมมือด้านการวิจัยการตลาด เช่น การพัฒนาพื้นที่ค้าปลีกเพื่อเปิดสาขาใหม่ ๆ รวมถึงโครงการชำระค่าธรรมเนียมการศึกษา เพื่ออำนวยความสะดวกนักศึกษาผ่านช่องทางสาขาบิ๊กซีทั่วประเทศกว่า 1,000 สาขา
ทั้งนี้ จากความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งใหญ่ในประเทศไทยเป็นโอกาสที่สถาบันการศึกษาและกลุ่มธุรกิจค้าปลีกจับมือร่วมกันพัฒนาบุคลากรที่ดี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและมีคุณภาพออกสู่สังคมไทยและถือเป็นก้าวแรกและยังจะมีความร่วมมือเพิ่มเติมอีก ซึ่งความร่วมมือนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และประเทศให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคตต่อไป
นายอัศวิน กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจค้าปลีกไทยว่า โดยรวมธุรกิจค้าปลีกไทยกำลังแข่งขันรุนแรงและไม่เพียงในประเทศเท่านั้น ซึ่งจากกรอบความร่วมมืออาเซียนใน 10 ประเทศที่กำลังเปิดกว้างมากขึ้น ซึ่งมีประชากรร่วมกันมากกว่า 600 ล้านคน จะเป็นโอกาสที่ภาคธุรกิจค้าปลีกไทยจะขยายสาขาไปยังต่างประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยปลายปีนี้ทางบิ๊กซีเตรียมขยายสาขาไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชา เมียนมา และลาวเพิ่มขึ้น ดังนั้น หากดูค้าปลีกไทยขณะนี้ไม่ได้ชะลอตัว แต่ยังมีกำลังซื้อพอสมควร จึงเชื่อว่าโอกาสที่ค้าปลีกไทยจะแข่งขันในประเทศเพื่อนบ้านยังมีอยู่มาก ซึ่งความร่วมมือกับราชภัฏครั้งนี้ ยังจะเป็นการเพิ่มบุคลากรในส่วนของบิ๊กซีได้อีกมาก.-สำนักข่าวไทย