ชาวบ้านปักธูปขอโชคเจ้าแม่ตะเคียนแต่เจอระเบิด

สุพรรณบุรี 22 เม.ย.-ชาวบ้านขอโชคลาภเจ้าแม่ตะเคียน แต่ขณะปักธูปกลับไปเจอระเบิด ชนิดขว้างสังหาร M79 คาดวัยรุ่นนำมาทิ้ง หลังตำรวจพื้นที่สุพรรณบุรีมีนโยบายในการกวาดล้างอาชญากรรม


วันนี้ ที่บริเวณ ริมบึงบ้านโพธิ์ตะวันออก ม.3 ต.บ้านโพธิ์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้านได้พบวัตถุต้องสงสัย บริเวณริมบึง  จึงได้แจ้ง ผู้นำชุมชน นายจำรักษ์ สุพรรณโรจน์ กำนันต.บ้านโพธิ์  ให้จนท.ตำรวจมาตรวจสอบ จากนั้น  ร.ต.อ. อมรรัตน์ เกิดทอง รอง สว กก. สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี  หัวหน้าชุดปฏิบัติการEOD ได้นำกำลัง จนท.ตำรวจชุด เก็บกู้วัตถุระเบิด กก.สส.ภ.จวสุพรรณบุรี ทหารจากกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยจาก มณฑลทหารบกที่ 17 จนท.ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าว  


หลังจากตรวจสอบแล้ว พบว่า เป็น วัตถุระเบิด  ชนิดขว้างสังหาร M79 รัศมีทำลายล้าง ระยะ 30 เมตร สภาพเก่าพร้อมใช้งาน เจ้าหน้าที่ชุดEOD จึงได้ทำการทำล้ายล้างทันที โดยการนำยางรถยนต์มาครอบ และกันแนวรัศมี  พร้อมทำลายล้างยังจุดที่พบ เพื่อความปลอดภัย  

นางกัญญาวีร์ จันทร์ลอย อายุ  50 ปี ชาวบ้านที่เจอระเบิดคนแรก เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนและเพื่อนๆรวม 4 คน ได้นำธูปจะมาไหว้ที่บริเวณนี้ เนื่องจากฝันว่า  แม่ตะเคียนอยู่ตรงนี้  เพราะที่ผ่านมา ที่วัดบ้านโพธิ์ได้ขุดเจอแม่ตะเคียนในบึงบ่อย และก็มาขอโชคลาภกันเป็นประจำ ปรากฏว่า ครั้งนี้ก็เลยชวนเพื่อนมาไหว้บริเวณดังกล่าว ระหว่างไหว้และจะปักธูปลงไปบริเวณริมบึง   ดันไปปักตรงวัตถุอะไรมีลักษณะแข็งๆ  จึงก้มไปดูใกล้ๆ  ปรากฎว่า  มีลักษณะวัตถุคล้ายระเบิด ทั้งตนและเพื่อน รวม 4 คน จึง รีบวิ่งเผ่นกันแทบไม่ทัน ด้วยความตกใจสุดขีด    


นายจำรักษ์  สุพรรณโรจน์  กำนันตำบลบ้านโพธิ์  กล่าวว่า   ปกติในบึงบ้านโพธิ์แห่ง นี้เป็นบึงขนาดใหญ่  มีน้ำเต็มบึง แต่ช่วงนี้น้ำในบึงแห้ง  ลดลงมาก  และช่วงนี้มีการขุดลอกบึง  จึงอาจทำให้ระเบิดโผล่ออกมา  และอาจเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่เกรงกลัวความผิดแล้วนำมาโยนทิ้งในบึงก็อาจเป็นไปได้  เบื้องต้น ตอนทราบก็ได้ประกาศเสียงตามสายให้ชาวบ้านและคนในชุมชนไม่ไปแตะต้อง  และเข้าใกล้ เพราะเกรงว่าจะเกิดอันตราย  จึงได้กันพื้นที่ไว้ จนกว่าจนท.จะมาตรวจสอบ เพื่อความปลอดภัย 

ร.ต.อ.อมรรัตน์ เกิดทอง รอง สว.สอบสวน กก.สส.ภ.จว.สพ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ EOD ได้กล่าวว่า หลังจาก จนท.ได้ทำการตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยดังกล่าวแล้ว  พบว่าเป็นระเบิดชนิดขว้างสังหาร M 79 สภาพพร้อมใช้งาน  จึงได้ทำการทำลายล้างทันที  เพื่อความปลอดภัย   ส่วนการพบระเบิดในครั้งนี้  คาดว่า  หลังจาก ตำรวจภูธรภาค 7 และ ตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ได้มีนโยบายในการกวาดล้างอาชญากรรม อาจทำให้กลุ่มวัยรุ่นที่เกิดความคึกคะนอง และอาจมีวัตถุระเบิดครอบครอง  นำมาโยนทิ้ง ในบึง  เพราะเกรงกลัวความผิด  แต่อย่างไรก็ดี ทางจนท.ชุดสืบสวนได้เก็บรายละเอียด  รวบรวมหลักฐานในการสืบสวนต่อไป ส่วนชาวบ้านที่พบเจอระเบิด  ก็ขออย่าไปเข้าใกล้  หรือ ไปสัมผัสที่วัตถุ หากพบวัตถุต้องสงสัย ให้รีบโทรแจ้ง 191 ทันที เพื่อให้ จนท.ได้มาทำการตรวจสอบเพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง