กทม. 10 เม.ย.- ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษของ “บิ๊กโจ๊ก” ยังเดินต่อ “พล.ต.อ.รุ่งโรจน์” เผย ยังใช้ทีมงานเดิมเป็นส่วนใหญ่
ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) มีคำสั่งให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต ผบช.สตม.โอนย้ายไปเป็น ข้าราชการพลเรือนในตำแหน่งที่ปรึกษาพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บรรยากาศเป็นไปอย่างเงียบเหงา ช่วงเช้าผู้บังคับบัญชาระดับสูงมาสำนักงานบางตา โดยไปรดน้ำขอพร พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์ เนื่องในเทศกาลสงกรานต์
ส่วนที่ศูนย์ปราบปรามอาชญกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศสำนักงานตำรวจแห่งชาติหรือ ศปอส.ตร. ซึ่ง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นรองผอ.ศูนย์ฯ พบว่ายังคงเปิดให้บริการตามปกติ มีประชาชนที่้เดือดร้อนเดินทางมาร้องเรียน เมื่อผู้สื่อข่าวขออนุญาตถ่ายภาพ เจ้าหน้าที่แจ้งให้ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชาสูงสุดเสียก่อน พร้อมบอกว่าทางศูนย์ฯก็ยังไม่ได้รับคำสั่งใดเพิ่มเติม เจ้าหน้าที่ยังรับเรื่องร้องเรียนตามปกติ
ด้าน พล.ต.อ.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะ ผู้อำนวยการศปอส.ตร. กล่าวว่า ศปอส.ตร.ยังมีเหมือนเดิม เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดนหลอกลวง ส่วนการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างบริหารและเจ้าหน้าที่ในศูนย์จะชัดเจนเร็ววันนี้ โดยยังคงใช้เจ้าหน้าที่ชุดเดิมเป็นส่วนใหญ่ เพราะมีประสบการณ์ในการทำงานอยู่แล้ว โดยจะให้ไปช่วยท้องที่ในคดีที่ซับซ้อนยุ่งยาก
สำหรับ ศปอส.ตร.นั้น ตั้งขึ้นใหม่ในช่วงที่ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว แม้มีตำแหน่งเพียง รองผอ.ศูนย์ฯ แต่เป็นผู้มีบทบาทสั่งการขับเคลื่อนทั้งหมด โดยศูนย์นี้ มีอำนาจหน้าที่ปราบปราม 13 ด้าน อาทิ การกู้ยืมเงินโดยไม่เป็นธรรม , ชาวต่างชาติทำผิดกฎหมาย หรืออยู่เกินกำหนดอนุญาต, การพนัน} ยาเสพติด-อาวุธปืน, ทรัพย์สินทางปัญญา, เจ้าหน้าที่รัฐถูกร้องเรียน, พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ, สถานบริการ,แข่งรถในทางสาธารณะ, เร่งรัดกฎหมายจับ-ติดตามการดำเนินคดี, รถเถื่อน ป้ายปลอม, การท่องเที่ยว และอื่นๆ (อาชญากรรมทั่วไป) ทำให้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ สามารถเข้าถึงทุกคดีสำคัญทั่วประเทศในช่วงที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย