กรุงเทพฯ 8 เม.ย.- รวบทันควัน คนร้าย”ฆ่าข่มขืนแหม่มเยอรมัน”ซุกศพโขดหินเกาะสีชัง “บิ๊กแป๊ะ”แสดงความเสียใจ กำชับทำคดีให้เป็นธรรมเรียกความเชื่อมั่นแก่นักท่องเที่ยว
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รอง โฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคนร้าย ข่มขืนฆ่าแหม่ม หมกศพเกาะสีชัง ว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 เม.ย.เวลาประมาณ 15.00 น.พนักงานสอบสวน สภ.เกาะสีชัง จว.ชลบุรี ได้รับแจ้งพบศพหญิงไม่ทราบชื่อที่อยู่ อยู่ในซอกหินบริเวณป่าละเมาะข้างบันไดทางขึ้นเขาพระบาท ม.6 ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน พบคราบเลือดที่บันไดปูนทางขึ้นเขาพระบาท ฯ ที่เกิดเหตุ เป็นระยะๆ ยาวประมาณ 50 เมตร ไปจนถึงจุดที่พบศพหญิง สัญชาติเยอรมัน อยู่ในซอกหิน สภาพศพมีร่องรอยการถูกทำร้าย มีบาดแผลฉกรรจ์ที่บริเวณหน้าผาก , ท้ายทอย , ใบหน้า และแผลถลอกที่ขา สวมแต่ยกทรงและกระโปรง ไม่สวมกางเกงใน
เจ้าหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน , เจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันปราบปราบ สภ.เกาะสีชัง และ เจ้าหน้าที่ตำรวจกองกับกำการสืบสวนสอบสวน ภ.จว.ชลบุรี ได้ระดมกำลัง ปูพรม ไล่ล่า สืบสวนติดตาม คนร้าย ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ ทราบชื่อคือ นายรณกร รื่นรม อายุ 23 ปี
จากการสืบสวนสอบสวนทราบว่า ผู้ที่ก่อเหตุ ได้พบเห็นผู้ตายขณะอยู่ที่เกิดเหตุ จึงได้ตีสนิทเพื่อขอมีเพศสัมพันธ์กับผู้ตาย แต่ผู้ตายไม่ยินยอม จึงได้ใช้กำลังข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ จากนั้นผู้ตายได้วิ่งหนีลงมาจากที่เกิดเหตุโดยมีนายรณกร ฯ วิ่งตามมาถึงจุดที่พบคราบเลือด (บริเวณบันไดปูนทางขึ้นเขาพระบาท) นายรณกร ฯ กลัวว่าผู้ตายจะไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงใช้ก้อนหินทุบที่บริเวณหน้าผาก ท้ายทอย และบริเวณใบหน้าหลายครั้ง แล้วลากร่างของผู้ตายจากบริเวณบันไดปูนฯ ที่พบคราบเลือดเข้าไปซ่อนไว้ที่ซอกหินในป่าละเมาะห่างกันประมาณ 50 เมตร ซึ่งขณะนั้นผู้ตายยังไม่หมดสติ นายรณกร ฯ จึงใช้ก้อนหินทุบที่บริเวณใบหน้าจนถึงแก่ความตายแล้วใช้ใบไม้ถมร่างของผู้ตายโดยมีก้อนหินวางทับอยู่เพื่ออำพรางศพ แล้วหลบหนีไป โดยระหว่างนั้นมีผู้พบเห็นและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดตามจับกุมตัวนายรณกร ฯ ผู้ก่อเหตุได้พร้อมเสื้อ , กางเกง และก้อนหินที่มีคราบเลือดของผู้ตายติดอยู่ได้ นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี
รอง โฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้น พร้อมแจ้งข้อกล่าวหาผู้ต้องหา กระทำความผิดฐาน ”ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา , ข่มขืนกระทำชำเราผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยผู้นั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ และอำพรางศพ” โดยพนักงานสอบสวนยังคงต้องรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์และผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อประกอบสำนวนคดีส่งพนักงานอัยการต่อไป
พร้อมกันนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจอำนวยความสะดวกแก่ญาติและเจ้าหน้าที่สถานทูตในการติดต่อรับศพกลับภูมิลำเนาเพื่อไปดำเนินพิธีทางศาสนาต่อไป พร้อมกล่าวชมเชยการทำงานของ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมของ ภ.จว.ชลบุรี และพลเมืองดีที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ให้เบาะแส ข้อมูลอันเป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จนสามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายได้อย่างรวดเร็ว และยังได้กำชับ พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน อย่างตรงไปตรงไปมา ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว เป็นธรรม อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นสำคัญ เพื่อบรรเทาความเสียหายที่เกิดขึ้นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว และนักลุงทุนในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย