กรุงเทพฯ 26 มี.ค. – WHAUP คาดตลาดโซลาร์รูฟท็อป-โซลาร์ลอยน้ำยังขยายตัวต่อเนื่อง เหตุโรงงานพุ่งเป้าลดค่าไฟฟ้า เตรียมแผนขยายงานหมื่นล้านใน 5 ปีข้างหน้าทั้งไฟฟ้า-น้ำ-ก๊าซ
นายวิเศษ จูงวัฒนา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP กล่าวว่า การผลิตไฟฟ้าบนหลังคาหรือโซลาร์รูฟท็อปจะยังเป็นธุรกิจโรงงานต่าง ๆให้ความสนใจ เนื่องจากสามารถลดค่าไฟฟ้าได้ประมาณร้อยละ 20 โดยทางบริษัทยังเดินหน้าติดต่อลูกค้าต่อเนื่องทั้งในนิคมอุตสาหกรรมของกลุ่ม WHA ทั้ง 9 แห่ง โดย 8 แห่งอยู่ในพื้นที่อีอีซี และอีก 1 แห่งอยู่ใน จังหวัดสระบุรี รวมถึงลูกค้าที่เป็นโรงงานนอกนิคมฯ โดยศักยภาพเฉพาะการพิจารณาจากหลังคาพบว่าสามารถผลิตไฟฟ้าได้ถึง 700-800 เมกะวัตต์ และยังติดตั้งโซลาร์รูฟท็อฟลอยน้ำได้อีก 20 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตาม กำลังผลิตติดตั้งจริงจะมีมากน้อยเพียงใดคงจะขึ้นอยู่กับเจ้าของโรงงาน
ส่วนโครงการติดตั้วโซลาร์ภาคประชาชน 100 เมกะวัตต์ปีนี้ ทางบริษัทคงจะไม่เข้าร่วมโครงการด้วย เพราะเป้าหมายจะเน้นโรงงาน ขณะเดียวกันชาวบ้านผู้ที่จะติดตั้งต้องคำนึงถึงความคุ้มทุน และที่สำคัญประเทศไทยยังไม่มีการกำหนดพื้นที่หรือโซนนิ่ง หากมีการติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปแล้ว มีคอนโดมิเนียม หรืออาคารสูงมาสร้างขึ้นภายหลังก็จะทำให้ประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าลดลง
สำหรับการลงทุนของบริษัทปีนี้ตั้งงบลงทุน 2,200 ล้านบาท แบ่งเป็นงบลงทุนสำหรับซื้อกิจการ (M&A) ธุรกิจน้ำประปาในประเทศเวียดนาม 400-500 ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจน้ำเพื่ออุตสาหกรรมในประเทศไทยสัดส่วนใกล้เคียงกัน ทั้งนี้ บริษัทสนใจจะลงทุนธุรกิจไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในเวียดนามที่รัฐบาลกำลังส่งเสริมให้มีกำลังผลิตเพิ่มสูงขึ้น แต่จากที่ติดตามสถานการณ์พบว่าค่าไฟฟ้า FIT ของเวียดนามลดลงจาก 9.35 เซนต์สหรัฐต่อหน่วย เหลือ 6 เซนต์ต่อหน่วย จึงต้องดูว่าจะคุ้มค่าในการลงทุนหรือไม่
สำหรับปี 2562 บริษัทมีแผนรุกธุรกิจไฟฟ้าแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา (โซลาร์รูฟ) โดยวางเป้าหมายเพิ่มกำลังการผลิตโซลาร์รูฟอีก 15-20 เมกะวัตต์จากปีที่แล้วมีกำลังการผลิตโซลาร์รูฟท็อป 20เมกะวัตต์ และใน 5 ปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีวงเงินลงทุน 9,000-10,000 ล้านบาท โดยจะลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า, น้ำเพื่ออุตสาหกรรมและธุรกิจค้าปลีกก๊าซธรรมชาติ โดยขณะนี้มีการร่วมทุนสร้างท่อก๊าซฯ แล้ว 2 นิคมฯ และกำลังจะเพิ่มเป็นนิคมฯ ที่ 3 ปีหน้า และบริษัทกำลังศึกษาที่จะขยายตลาดสร้างโรงไฟฟ้าก๊าซฯ ในนิคมพร้อมกับไอน้ำ รวมถึงศึกษาเรื่องระบบไฟฟ้าอัจฉริยะ หรือสมาร์ทกริด และระบบจัดเก็บพลังงาน แต่กำลังรอระเบียบกฎเกณฑ์จากภาครัฐเข้ามาส่งเสริมให้เกิดขึ้น
ปัจจุบัน WHAUP มีโครงการโซลาร์ที่ดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ 12 โครงการ รวมกำลังผลิตติดตั้งทั้งหมด 5.9 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีก 15 โครงการ รวม 14.3 เมกะวัตต์ ซึ่งตามแผนจะทยอยดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ปี 2562 ขณะที่โรงไฟฟ้าขยะภาคอุตสาหกรรมมีการร่วมทุนผลิต 8.63 เมกะวัตต์ซึ่งจะซีโอดีในปีนี้เช่นกัน . -สำนักข่าวไทย