กรุงเทพฯ 23 ก.พ.-“กอบศักดิ์” ลงพื้นที่เขตธนบุรี ช่วยผู้สมัคร ส.ส.หาเสียง ชูพัฒนาต่อยอดฝั่งธนบุรี เป็นสถานที่ท่องเที่ยว สร้างงาน สร้างเงิน พร้อมยืนยันใช้ ส.ว.250 คนตั้งรัฐบาลไม่ได้ ส่วน “พล.อ.ประยุทธ์” ร่วมดีเบตได้หรือไม่ รอความชัดเจนจาก กกต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ก.พ.) นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ลงพื้นที่เขตธนบุรี พร้อมด้วย นายศันสนะ สุริยะโยธิน ผู้สมัคร ส.ส.กทม.เขต 22 ลงพื้นที่หาเสียงพบปะประชาชน และเยี่ยมชมสถานที่สำคัญ โดยได้เข้ากราบสักการะหลวงพ่อโต ภายในวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ศาลเจ้าเกียนอันเกง หรือศาลเจ้าแม่กวนอิม เป็นศาลเจ้าจีนเก่าแก่ของชุมชนกุฎีจีน ตั้งอยู่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา เขตธนบุรี อายุมากกว่า 100 ปี และโบสถ์ซางตาครู้ส รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนต่าง ๆ เช่น โรงขนมฝรั่งป้าเป้า บ้านเรือนไทยจันทนภาพ และบ้านกุฎีจีน
นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า พื้นที่ฝั่งธนบุรีมีศักยภาพอย่างมากในทางวัฒนธรรมและมีบรรยากาศริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ที่สวยงามอย่างมาก ซึ่งสามารถต่อยอดพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้ ตรงกับนโยบายพรรคเรื่องพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวชุมชน ซึ่งการท่องเที่ยวชุมชนจะช่วยสร้างงานและเป็นแหล่งรายได้ใหม่ให้ประชาชนในเขตธนบุรี
นายกอบศักดิ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ในเขตธนบุรี มีหลาย ๆ ตลาดที่สอดรับกับโครงการตลาดชุมชนของพรรคที่สนับสนุนการสร้างตลาดชุมชนและถนนคนเดินชุมชน ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนต่าง ๆ มีตลาดและของกินใกล้บ้านที่ราคาถูก มีมาตราฐาน เป็นระเบียบ และส่งเสริมให้ประชาชนหาบเร่แผงลอยสามารถประกอบอาชีพในพื้นที่ชุมชนต่าง ๆ ได้มากขึ้น และมั่นใจว่าเขตธนบุรีมีศักยภาพที่จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของคนกรุงเทพฯ และชาวต่างชาติที่มาเที่ยวกรุงเทพฯ ในอนาคต
“ขณะนี้เสียงประชาชนที่สนับสนุนพรรคพลังประชารัฐใน กทม.ตอบรับดี มีความคึกคัก ในหลายพื้นที่ที่มีโอกาสเข้าไปสื่อสารนโยบาย และมั่นใจว่าจะได้รับการสนับสนุนมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เหลือ ซึ่งต้องทำงานอย่างหนัก” นายกอบศักดิ์ กล่าว
ส่วนพรรคพลังประชารัฐ จะให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ช่วยหาเสียงและร่วมดีเบตกับผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคอื่น ๆ หรือไม่นั้น นายกอบศักดิ์ กล่าวว่า อยู่ระหว่างที่พรรครอฟังความชัดเจนจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ต้องตีความเรื่องดังกล่าวให้เรียบร้อย ในลักษณะที่เป็นทางการ แต่ส่วนตัวเห็นว่า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีให้กับพรรค ถือว่าได้ช่วยพรรคมากแล้ว เพราะ พรรคจะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชนที่ชื่นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ เพิ่มขึ้น พร้อมยอมรับว่าหาก พล.อ.ประยุทธ์ ช่วยหาเสียงได้ พรรคพลังประชารัฐจะยิ้มได้กว้างขึ้น
นายกอบศักดิ์ กล่าวถึงการร่าง พ.ร.บ.ข้าว ว่า ยังมีเวลาให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ทบทวนประเด็นที่ยังมีความเห็นต่าง ควรปรับเปลี่ยนให้ชาวนามีความพอใจมากที่สุด หรืออาจชะลอออกไปก่อน เพื่อรับฟังเสียงประชาชนอย่างครบถ้วน ซึ่งหากยังไม่สามารถตัดสินใจได้ ควรรอรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเป็นผู้ดำเนินการ
นายกอบศักดิ์ ยืนยันว่า ส.ว.250 คน ไม่ใช่จุดสำคัญในการขับเคลื่อนรัฐบาล เพราะการทำงานจำเป็นต้องมีเสียงเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้นจึงเห็นว่าการใช้เสียง ส.ส.เพียง 126 คน รวมกับ ส.ว. 250 คนเพื่อจัดตั้งรัฐบาล จึงเป็นไปไม่ได้ ส่วนใครจะเป็นเสียงข้างมาก ต้องให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ และคิดว่ายังเร็วไปที่จะบอกว่าใครจะเป็นพรรคที่นำการจัดตั้งรัฐบาล และพรรคพลังประชารัฐจะร่วมกับพรรคการเมืองใด.-สำนักข่าวไทย
