ปักกิ่ง 15 ก.พ.- เดือนมกราคมปีนี้ธนาคารพาณิชย์จีนปล่อยสินเชื่อใหม่มากเป็นประวัติการณ์ถึง 3.23 ล้านล้านหยวน (ราว 14.9 ล้านล้านบาท) เพราะทางการพยายามกระตุ้นการลงทุนที่ซบเซาและป้องกันเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรุนแรง
ตัวเลขสินเชื่อดังกล่าวสูงกว่าเดือนมกราคมปีก่อนที่ปล่อยสินเชื่อใหม่ 2.9 ล้านล้านหยวน (ราว 13.38 ล้านล้านบาท) และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปล่อย 2.8 ล้านล้านหยวน (ราว 12.92 ล้านล้านบาท) เทียบกับเดือนธันวาคมปีก่อนที่ปล่อยเพียง 1.08 ล้านล้านหยวน (ราว 4.98 ล้านล้านบาท) นักวิเคราะห์ชาวจีนของแคปิตัลอีโคโนมิกส์มองว่า แม้ไม่ควรนำตัวเลขเพียงเดือนเดียวมาอ้างอิง แต่ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นมากนี้เป็นสัญญาณว่า การขยายตัวของสินเชื่อจีนกำลังจะพ้นจากจุดต่ำสุดแล้ว ตอบสนองต่อมาตรการผ่อนปรนนโยบายการเงินของทางการ หากสินเชื่อฟื้นตัวแบบนี้ต่อไปอีกหลายเดือนก็จะเป็นไปตามที่คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจจีนจะเติบโตอย่างมีเสถียรภาพในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพราะกว่าสินเชื่อใหม่จะกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางธุรกิจใหม่ ๆ ต้องใช้เวลาราว 6-9 เดือน
ธนาคารประชาชนจีนหรือธนาคารกลางระบุว่า สินเชื่อใหม่ร้อยละ 80 ในเดือนมกราคมเป็นการปล่อยให้ภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากเดือนธันวาคมที่ปล่อยให้ภาคธุรกิจเพียงร้อยละ 44 ธนาคารกลางลดอัตราส่วนการดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องของธนาคารลงร้อยละ 1 ในเดือนดังกล่าว หลังจากลดไปถึง 4 ครั้งในปีที่ผ่านมา หวังให้ธนาคารมีสภาพคล่องเพื่อปล่อยสินเชื่อมากขึ้น นอกจากนี้ยังลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงเพื่อให้ต้นทุนการเงินของธุรกิจต่ำลงและบีบให้ธนาคารต้องปล่อยสินเชื่อมากขึ้น อย่างไรก็ดี รอยเตอร์อ้างนายธนาคารจีนหลายคนว่า พยายามเลี่ยงการปล่อยสินเชื่อที่เสี่ยงและมากเกินไปเหมือนเมื่อครั้งที่รัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่หลังวิกฤตการเงินโลกปี 2551-2552 อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือเอ็นพีแอล (NPL) ในปีที่แล้วสูงสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ภาคธุรกิจก็ผิดนัดชำระคืนหุ้นกู้มากเป็นประวัติการณ์ด้วย.- สำนักข่าวไทย