เร่งจ่ายเรือประมงออกนอกระบบกลุ่มแรก 397 ลำ

กรุงเทพฯ 1 ก.พ. –  อนุกรรมการกลั่นกรองนำเรือประมงออกนอกระบบสรุปจำนวนเรือกลุ่มที่รัฐจะจ่ายค่าชดเชยกลุ่มแรก 397 ลำ หลังรอมาตั้งแต่ปี 2558 


วันนี้มีการประชุมคณะอนุกรรมการกลั่นกรองนำเรือประมงออกนอกระบบ โดยมีนายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมนายอรุณชัย เจริญ พุทธเจริญ รองอธิบดีกรมประมงชี้แจงว่าจากการที่คณะอนุกรรมการเปิดให้เรือประมงที่ได้รับผลกระทบจากการไม่สามารถทำประมงได้ต่อไปตามการกำหนดจำนวนเรือประมงให้เหมาะสมกับขนาดของน่านน้ำ เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนทรัพยากรทางทะเลมายืนยันตนภายในวันที่ 10 มกราคม 2562 พบว่าเรือที่สำรวจและขึ้นทะเบียนปี 2558 จำนวน 679 ลำ มีเจ้าของเรือมายืนยันสิทธิ์ขอรับค่าชดเชย 570 ลำ จากนั้นคณะทำงานตรวจสอบได้ดำเนินการตรวจสอบทั้งประวัติเจ้าของเรือและลำเรือ โดยเรือนั้นตรวจสอบ 2 ประเด็น คือ ตรวจสอบสภาพเรือ โดยใช้ภาพถ่ายปี 2558 รวบรวมโดยกรมเจ้าท่าและลงพื้นที่ตรวจสอบการมีอยู่จริงของเรือ สรุปว่าเรือกลุ่มแรกที่เข้าเกณฑ์จะได้รับค่าชดเชย คือ เรือไม้ 397 ลำ โดยประมาณการณ์งบประมาณไว้จำนวนหนึ่ง ซึ่งที่ประชุมต้องพิจารณาแนวทางการเสนอ ครม. อนุมัติงบประมาณอีกครั้งเพื่อให้เจ้าของเรือได้รับประโยชน์สูงสุด

สำหรับเรือเหล็กมี 22 ลำ ที่ประชุมมีมติให้คณะทำงานพิจารณาอัตราค่าชดเชย แต่เจ้าของเรือบางรายยังเห็นว่าต่ำเกินไป จึงตั้งคณะทำงานร่วม 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ภาครัฐ เจ้าของเรือ และสมาคมประมงฯ เพื่อหาราคากลางที่เหมาะสม จึงเสนอขออนุมัติงบประมาณช่วยเหลือต่อไป


นายอรุณชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า กลุ่มเรือประมงที่เจ้าของไม่ประสงค์ประกอบอาชีพทำประมง  2,513 ลำ คณะทำงานตรวจสอบแบ่งกลุ่มและจัดลำดับความเร่งด่วนประมาณ 2,000 ลำ ที่เหลือจะเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว ซึ่งมีทั้งผู้ที่ประสงค์ขอรับค่าชดเชยและผู้ที่ประสงค์ให้รัฐช่วยประสานงานกับภาคเอกชนในต่างประเทศ เพื่อจำหน่ายเรือ เนื่องจากว่าได้ราคาดีกว่า โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประสานงานกับสถานทูตประเทศที่ต้องการซื้อเรือ รวมถึงภาคเอกชนที่จะรับซื้อเรือและอำนวยความสะดวกออกใบรับรองแก่เรือประมงที่ต้องการขาย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

ภรรยาหมอบุญมอบตัว

“ภรรยา-ลูก” หมอบุญ อ้างถูกปลอมลายเซ็น ไม่เคยรู้การกระทำใดๆ

ทนายความภรรยา-ลูก หมอบุญ เผยถูกปลอมลายเซ็นเอกสาร ไม่เคยรับรู้การกระทำใดๆ ของหมอบุญ โดยภรรยาได้หย่าร้างกับหมอบุญ ก่อนปี 66

น้ำผุดเชียงดาว

น้ำใต้ดินผุดท่วมอ่วม “บ้านเรือน-พื้นที่เกษตร” อ.เชียงดาว

มวลน้ำมหาศาลผุดขึ้นจากใต้ดิน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร และบ้านเรือนประชาชน หลายหมู่บ้าน ใน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ระดับน้ำบางจุด ท่วมบ้านเกือบถึงหลังคา พื้นที่การเกษตรเสียหายกว่า 400 ไร่

เลือกตั้ง อบจ.

“แสวง” ลงพื้นที่สังเกตการณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี

“เลขาฯ แสวง” ลงพื้นที่ตรวจรับ-มอบอุปกรณ์เลือกตั้ง นายก อบจ.อุดรธานี พร้อมสังเกตการณ์เลือกตั้งพรุ่งนี้ (24 พ.ย.) วอนประชาชนออกมาใช้สิทธิ 8.00-17.00 น.