กรุงเทพฯ 23 ม.ค. – รมว.คมนาคมลงพื้นที่อู่แสมดำ-พุทธมณฑลสาย 2 ตรวจมาตรการแก้ปัญหาควันดำและฝุ่นของรถเมล์ ขสมก. สั่งเซ็ทซีโร่งานซ่อมบำรุงอุปกรณ์ อะไหล่ รถเมล์ 2,075 คัน
นายอาคม เติมพิยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามมาตรการตรวจวัดค่าควันดำรถโดยสาร ณ อู่จอดรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เขตการเดินรถที่ 5 อู่แสมดำ และพุทธมณฑลสาย 2 โดยภายหลังการตรวจวัดค่าควันดำของรถเมล์ในอู่ดังกล่าว พบว่าค่าควันดำไม่เกินค่ามาตรฐานของกรมควบคุมมลพิษ
นายอาคม กล่าวว่า เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้บริการในวันนี้ (23 ม.ค.) ได้สั่งการให้ ขสมก.ดำเนินมาตรการ “เซ็ท ซีโร่” โดยให้รถเมล์ที่ปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลบี 20 ทั้งหมด 2,075 คัน เข้าขั้นตอนตรวจเช็คสภาพทันทีไม่ต้องรอถึงรอบการซ่อมบำรุง โดยให้มีการเปลี่ยนอะไหล่ที่มีส่วนสำคัญต่อการลดปัญหาควันดำ เช่น น้ำมันเครื่อง หม้อพักควันดำ ไส้กรองอากาศ กรองน้ำมันดีเซล โดยไม่ต้องรอครบรอบอายุการใช้งานขออะไหล่เหล่านี้
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมยอมรับว่าปัจจุบันรถเมล์ ขสมก.ส่วนใหญ่เป็นรถเมล์ที่มีอายุการใช้งานเฉลี่ย 20-30 ปี จึงเป็นเรื่องปกติที่จะมีปัญหาควันดำบ้าง แต่ปัจจุบันกระทรวงคมนาคมและ ขสมก.อยู่ระหว่างเร่งจัดหารถใหม่เข้ามาเพื่อให้บริการ เช่น รถเมล์เอ็นจีวีที่มีการรับมอบมาแล้ว 300 คัน และจะรับมอบจนครบ 489 คัน รวมถึงการจัดหารถเมล์พลังไฟฟ้าและไฮบริดตามแผนงาน ขสมก.
ส่วนการประชุมหน่วยงานในสังกัดเพื่อเร่งรัดการแก้ไขปัญหาฝุ่นควันเมื่อวานนี้มีมาตรการเพิ่มเติมทั้งการสั่งการให้บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ปรับเปลี่ยนมาใช้น้ำมันบี 20 สำหรับรถโดยสารของ บขส. 600 คัน และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปลี่ยนมาใช้น้ำมันบี 10 เพิ่มขึ้น หลังผ่านการทดสอบปี 2561 ส่วนการใช้น้ำมันบี 20 ในรถไฟจะต้องมีการทดสอบต่อไป นอกจากนี้ ยังมีบริการที่ขอให้หน่วยงานราชการในสังกัดลดการใช้รถยนต์ดีเซลลง โดยสามารถปรับเปลี่ยนวิธีการทำงานโดยใช้การสื่อสารด้วยการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์และระบบไอทีอื่นทดแทน
นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการ ผู้อำนวยการ ขสมก. กล่าวว่า ขสมก.ได้เปลี่ยนมาใช้น้ำมันดีเซลบี 20 ในรถโดยสารธรรมดาและรถโดยสารปรับอากาศ 2,075 คัน เพื่อสนับสนุนการใช้น้ำมันปาล์มภายในประเทศ ช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์ม และส่งเสริมการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM 2.5) ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล.-สำนักข่าวไทย