ปักกิ่ง 21 ม.ค. – จำนวนประชากรของจีนจะขยายตัวในอัตราที่ค่อนข้างช้าแม้ว่ารัฐบาลจะยกเลิกนโยบายให้มีลูกแค่เพียงคนเดียวแล้วก็ตาม ทำให้เกิดความวิตกเพิ่มขึ้นว่าสังคมผู้สูงอายุจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
รัฐบาลจีนประกาศขยายเพดานให้แต่ละครอบครัวมีลูกได้ 2 คนเมื่อปี 2016 ด้วยความหวังจะเพิ่มจำนวนประชากรรุ่นใหม่แม้จีนจะมีประชากรยู่เกือบ 1,400 ล้านคนแล้วก็ตาม ในขณะที่นักวิชาการคาดหมายว่า รัฐบาลจีนอาจจะยกเลิกข้อจำกัดเรื่องการมีลูกในปีหน้า อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงนโยบายดังกล่าวดูเหมือนจะไม่ช่วยโน่มน้าวให้บรรดาคู่สามี-ภรรยามีลูกเพิ่มมากขึ้น โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากการขยายตัวของเขตเมืองและประเด็นเรื่องค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้นในประเทศจีน ซึ่งมีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนแสดงให้เห็นว่า มีประชากรที่เกิดใหม่ในปี 2018 เป็นจำนวนทั้งสิ้น 15.23 ล้านคน ลดลงราว 2 ล้านคนจากเมื่อเปรียบเทียบจำนวนทารกเกิดใหม่ในปี 2017 การขยายตัวของประชากรจีนอยู่ในระดับที่ต่ำที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีน จีนเผชิญกับอัตราการเกิดของประชากรที่ต่ำที่สุดในปี 1960 ซึ่งเป็นช่วงที่ประเทศประสบภาวะอดอยากยากจน อย่างไรก็ตาม ในปี 2018 จีนมีประชากรเพิ่มขึ้น 5.3 ล้านคน รวมเป็น 1,395 ล้านคน รักษาอันดับ 1 ของประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในโลกเอาไว้อีกต่อไป.-สำนักข่าวไทย